ตอนที่ 42 ปฏิเสธอย่างนุ่มนวล   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 42 ปฏิเสธอย่างนุ่มนวล
ต๭นที่ 42 ปฏิเสธอย่างนุ่มนวล จากคำพูดของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า ทำให้แอนดี้เงยหน้าขึ้นมองเธออย่างจริงจัง ความจริงที่บอสขอให้เขามาสัมภาษณ์ครั้งนี่ก็เป็นเพียงหน้าฉากการแสดงเพียงเท่านั้น เพราะถึงอย่างไรเขาก็รู้อยู่แล้วว่าพรีเซนเตอร์ในครั้งนี่ได้ถูกเลือกไว้ก่อนหน้านี่แล้ว เขาเลยไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรเลยด้วยซ้ำ เขาเล่นโทรศัพท์อยู่ตลอดเวลา ปล่อยให้ผู้จัดการเป็นคนจัดการคุยงานแทน ก็เห็นอยู่ว่าเธอกำลังจะเซ็นสัญญาไปแล้วแท้ ๆ แต่หญิงสาวกับตอบปฏิเสธออกมาซะงั้น เรื่องนี่เป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายของเขาจริง ๆ เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่ามันน่า.. สนใจ พี่ขวัญถึงกับสั่นไปทั้งตัวด้วยความโมโห ได้แต่ขอโทษอีกฝ่ายซ้ำ ๆ ก่อนจะลากกมิดาไปอีกฝั่งหนึ่งพลางกระซิบเสียงต่ำ “แกบ้าไปแล้วหรอ?” “พี่ขวัญ ดาทำงานนี่ไม่ได้จริง ๆ” “ทำไมจะทำไม่ได้ แกรู้หรือเปล่าว่าโอกาสดีๆอย่างนี่ มีอีกตั้งกี่คนที่อยากจะทำงานนี่ แต่ไม่มีโอกาส” “แต่ถ้ามันไม่ได้มาจากความสามารถของดา ดาทำไม่ได้” “กมิดา!” พี่ขวัญเริ่มที่จะโกรธขึ้นมา “แกไม่ได้เป็นมือใหม่แล้ว แกเข้าวงการตั้งแต่อายุสิบเจ็บ นี่คือวงการบันเทิงไม่ใช่สนามเด็กเล่น ฝีมือยังไงมันก็พัฒนากันได้ คนอื่นมีแต่วิ่งเข้าใส่งานแต่แกกลับจะถอยหนีเนี่ยนะ เขาอุตส่าห์ให้โอกาสแกแล้ว ในเมื่อมันเป็นของแกก็ควรที่จะจับมันเอาไว้ให้แน่นสิ” “แต่โอกาสนี่ดาขอปฏิเสธค่ะ ดาไม่ทำ” กมิดาเองก็เริ่มที่จะโมโหแล้ว พี่ขวัญเองดูก็น่าจะรู้ดี เธอเองก็โมโหเหมือนกัน แต่ในเมื่อนักแสดงในสังกัดไม่ยอมเซ็นสัญญาเอง เธอก็ทำอะไรไม่ได้ ตอนนี่เธอกำลังโกรธที่กมิดาไม่ยอมเซ็นสัญญาทำให้เธอเองก็ต้องอดที่จะได้รับค่านายหน้าไปด้วย “แล้วแต่แกแล้วกัน หลังจากนี่จะทำอะไรก็เรื่องของแกเลย ฉันจะไม่สนใจแกแล้ว!” พูดจบพี่ขวัญก็เดินปึงปังออกจากห้องประชุมไปด้วยความหงุดหงิด คนที่เหลือภายในห้องก็มองหน้ากันอย่างเลิ่กลั่ก ด้านกมิดาก็รีบโค้งขอโทษอีกฝ่าย ก่อนจะรีบขอตัวออกมา ต้องเป็นปริพลแน่ที่อยากให้เธอทำงานนี่ แต่เธอก็ไม่ใช่คนโง่ ถึงจะรู้ว่าการปฏิเสธในครั้งนี่อาจมีผลเสียมากกว่าผลดี แต่เธอก็สบายใจที่เลือกทำมากกว่า “ผู้หญิงคนนั้นชื่ออะไร? เธอมีความสำคัญมากหรอ?” แอนดี้เอ่ยถามพลางมองไปยังประตูที่กมืดาเดินออกไปอย่างสนใจในความหัวรั้นของเธอ “คุณกมิดาครับ เหมือนได้ยินมาว่าเป็นคนที่คุณปริพลเลือกไว้ แล้วเธอยังเคยได้ใส่ชุดเครื่องประดับวีนัสของคุณปริพลมาก่อนด้วยครับ” “อ้อ? เป็นคนที่คุณปริพลเลือกไว้นี่เอง” แอนดี้หรี่ตาลงอย่างใช้ความคิด “มีรูปเธอหรือเปล่า รูปตอนปกติ ภาพเหมือน หรือรูปตอนที่เธอสวมสร้อยคอวีนัสอยู่ ถ้าหาเจอแล้วส่งมาให้ฉันด้วย” “ไม่ใช่ว่าเธอปฏิเสธการเซ็นสัญญาไปแล้วหรอครับ?” ผู้ช่วยเอ่ยถามอย่างงงงวย “ถึงจะถูกปฏิเสธมาแล้ว แต่เธอก็ยังเป็นตัวเลือกแรกของแบรนด์อยู่ดี แม้ว่าหน้าตาเธอโดยรวมแล้วอาจจะไม่ได้ดูโดดเด่นขนาดนั้น แต่เธอเป็นคนเก่งและยังมีเสน่ห์เฉพาะตัว แค่ดูจากรูปยังดึงดูดสายตาได้เลย” ปริพลเขาเป็นคนที่พูดจริงทำจริง หลังจากที่กมิดาออกมาจากบริษัทแล้วก็สังเกตเห็นปมุตคนขับรถกำลังยืนรออยู่ตรงประตู ก่อนที่เขาจะรีบวิ่งไปเปิดประตูให้เธอขึ้นรถ “คุณปริพลล่ะ” “คุณปริพลยังประชุมไม่เสร็จครับ คุณผู้ชายเขาให้ผมมารับคุณกมิดาไปส่งที่ร้านอาหารก่อน แล้วจะตามมาทีหลังครับ” หลังจบประโยค กมิดาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก รู้สึกโชคดีที่ไม่ได้นั่งรถไปด้วยกัน ไม่งั้นคงอึดอัดวางตัวไม่ถูกไปอีกสักพักใหญ่ เหมือนกับตอนที่เธอเคยอยู่กับปริพลในพื้นที่ ๆ ค่อนข้างเล็ก จู่ ๆ เธอก็ดันนึกถึงเรื่องตอนเย็นของเมื่อวันก่อนขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ พยายามจะไล่ความคิดฟุ้งซ่านไปแต่ก็ไม่เป็นผล ถึงแม้ปริพลจะไม่ได้อยู่ที่นี่แต่เมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เธอเองก็อดไม่ได้ที่จะหูแดงขึ้นมา ร้านอาหารที่นัดหมายกันเป็นร้านอาหารตะวันตกระดับไฮเอนด์ ซึ่งมีการแบ่งห้องอาหารให้เป็นส่วนตัว ล้อมรอบด้วยผ้าม่านสีเขียวเข้ม มีบริกรสองคนยืนต้อนรับอยู่ด้านนอกม่าน ทั้งสองสวมสูทดำผูกโบว์พวกเขาโค้งต้อนรับเธออย่างน้อมนอบน้อม บริกรเลื่อนเก้าอี้ให้กมิดานั่งก่อนจะนำเมนูอาหารมาให้เธอ “คุณปริพลจะมาถึงเมื่อไหร่?” เธอไม่อยากจะสั่งอาหารมากินก่อน แล้วต้องมานั่งจ้องรอเขากินหรอกนะ “อีกประมาณห้านาทีครับ คุณผู้หญิงเชิญสั่งอาหารได้เลยครับ ส่วนเมนูของคุณผู้ชายทางเราได้เตรียมไว้เรียบร้อยแล้วครับ” จริง ๆ แล้วปริพลคงจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เพราะเขาต้องทำทุกอย่างแข่งกับเวลา คงมีแค่เธอที่กังวลไปเองว่าอาหารจะมาก่อนเขามาแล้วจะกลายเป็นจืดชืดไปซะก่อน “งั้นเอาสเต็กเวลลิงตันแล้วกันค่ะ” ราคาบนเมนูอาหารทำให้เธอถึงกับพูดไม่ออก เดิมทีเธอคิดว่าจะจ่ายตังค่าอาหารเอง แต่คิดไปคิดมาแล้วก็ช่างมันเถอะ เงินเดือนของเธอรวมกันหนึ่งปียังไม่พอเลย ยิ่งไปกว่านั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องที่เธอต้องมาสิ้นเปลืองกับอะไรแบบนี่ด้วย “แล้วเครื่องดื่ม ไม่ทราบว่าจะรับอะไรดีครับ” “ไม่เป็นไรค่ะ เอาแค่น้ำเปล่าก็พอ” เพียงแค่เหลือบไปดูเมนูไวน์ก็เห็นว่าแต่ละเมนูราคาไม่ต่ำกว่าห้าหลัก หลังจากสั่งอาหารเสร็จไม่นาน เธอก็พบว่าปริพลมาถึงในห้านาทีพอดิบพอดีไม่มีเกินแม้แต่นาทีเดียว เขายังสวมสูทสีดำเรียบกริบเหมือนเดิมกับเมื่อเช้า รอยยับสักนิดก็ไม่มี ดูจากเครื่องหน้าที่เพียบพร้อมบนหน้าเขา ทำให้เขาดูหล่อเหลามาก ยิ่งคิ้วคมเข้มนั้นส่งผลให้ใบหน้าของเขาดูสุขุมติดเย็นชาเล็กน้อย “รอนานมั้ยครับ?” เขาเอ่ยถาม “อ่อ ไม่ค่ะ ฉันก็เพิ่งมาถึง” “สั่งอะไรไปรึยัง?” “สั่งไปแล้วค่ะ พอดีพวกเขาบอกว่าเตรียมส่วนของคุณไว้แล้ว ฉันก็เลยไม่ได้สั่งอะไรให้คุณ” “อืม” เขาตอบกลับมาแค่คำเดียวก่อนจะหยิบกล่องของขวัญขึ้นมาแล้วส่งให้เธอ กมิดาประหลาดใจไปครู่นึง ก่อนจะเปิดกล่องของขวัญสี่เหลี่ยมผืนผ้าออก เธอถอนหายใจเบา ๆ อย่างโลกใจเมื่อเห็นว่าภายในกล่องเป็นสร้อยคอแม่ของเธอ “คุณเอาไปซ่อมให้ฉันหรอคะ?” เธอมองสร้อยเส้นนั้นอยู่ครู่นึง “ซ่อมได้เนียนมากเลยค่ะ เหมือนเดิมเลย” “จะลองใส่ดูมั้ย?” ปริพลเอ่ยถามด้วยท่าทีและน้ำเสียงสบาย ๆ กมิดาพยัก ก่อนจะพยายามใส่ด้วยตัวเอง แต่กลับถูกมือใหญ่แย่งสร้อยในมือไป ก่อนเขาจะเดินอ้อมโต๊ะมาเพื่อสวมใส่สร้อยให้ ยังไม่ทันที่เธอจะได้ปฏิเสธ สร้อยก็ถูกสวมใส่บนคอของเธอเรียบร้อยแล้ว สีเงินของตัวสร้อยปล่องประกายแววาวออกมา ตัวจี้ก็หล่นลงบนหน้าอกของเธออย่างพอดิบพอดี หลังจากสวมใส่ก็ทำให้เธอรับรู้ถึงความเย็นจากตัวสร้อย “ได้ยินมาว่าคุณปฏิเสธพรีเซนเตอร์ของ Ismail หรอครับ?” น้ำเสียงเย็นชาจากเขา ที่ดูราวกับว่ามีความหมายบางอย่สงแอบแฝงอยู่ ทำให้กมิดารู้สึกเกร็งก่อนจะพยักหน้ากลับไปน้อย ๆ “ค่ะ” ในสายตาของเธอปริพลเป็นคนที่มีชื่อเสียง แต่ตัวเธอเองก็ยังไม่ได้รู้จักตัวตนของเขาจริง ๆ “ถ้าคุณไม่ชอบ งั้นเปลี่ยนเป็นแบรนด์จิชี่ดูมั้ยละครับ Ismail คุณอาจเห็นว่าไม่เหมาะกับคุณ ถ้าเป็นจิชี่คุณคงโอเคใช่มั้ยครับ” แบรนด์จิชี่? กมิดาถึงกลับเบิกตาโตด้วยความตกใจ ทั้งสองแบรนด์ล้วนเป็นแบรนด์ดังทั้งคู่ทำไมปริพลเขาถึงได้พูดอย่างหน้าตาเฉยขนาดนั้น แต่ไหนแต่ไรมาแบรนด์จิชี่ใช้นางแบบจากต่างประเทศมาโดยตลอดด้วยซ้ำ เธอไม่กล้าแม้แต่จะคิดเลยด้วยซ้ำ “คุณปริพลคะ ฉันไม่ได้หมายถึงแบบนั้น คุณ.. คุณ...” กมิดาลังเลที่จะพูดออกมาอยู่นาน แต่ก็ตัดใจที่จะคุยให้มันชัดเจน “ทำไมคุณถึงอยากให้ฉันร่วมงานด้วยขนาดนั้น ทั้ง ๆ ที่เราก็ไม่ได้สนิทหรือคุ้นเคยกัน” ‘กึก’ เสียงดังขึ้นเบา ๆ เธอรับรู้ได้ว่าสร้อยคอที่ใส่อยู่หลุดลงมาอย่างกะทันหัน ก่อนที่เธอจะเห็นว่าตอนนี่มันไปอยู่ในมือใหญ่ของเขา “สงสัยจะซ่อมมาไม่ดี เดี๋ยวพรุ่งนี่ผมเอาไปซ่อมใหม่ให้แล้วกัน” น้ำเสียงเย็นเย็นจากเขามันทำให้เธอรู้สึกว่ามันเป็นสัญญาณเตือนอะไรบางอย่าง กมิดารู้สึกอึดอัดจนเกร็งไปทั้งตัว 
已经是最新一章了
加载中