บทที่ 9 บุคคลที่ “สาม” ในที่เกิดเหตุ   1/    
已经是第一章了
บทที่ 9 บุคคลที่ “สาม” ในที่เกิดเหตุ
บทที่ 9 บุคคลที่ “สาม” ในที่เกิดเหตุ ตรงหน้าของจริม ในที่สุดตุนท์ก็พูดความจริงออกมา เวลาที่เขาพบศพคือเวลาประมาณหกโมงเช้า หลังจากที่เปิดกระเป๋าเดินทางแล้ว ตุนท์ก็ตกใจมาก ในหัวของก็เลยว่างเปล่า คิดแต่ว่าต้องรีบไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ทว่าพอวิ่งออกมายังปากทางของซอยแล้ว กลับนึกขึ้นมาได้ว่านัดหลานสาวให้มาเจอกันที่บริเวณซอยที่สาม กลัวว่าหลานสาวจะเกิดเรื่อง ตุนท์จึงอดทนกับความหวาดกลัวกลับไปหาในซอยอีกครั้งจนทั่ว ในที่สุดก็เจอหลานสาวตัวน้อยอยู่ข้างๆ ถังขยะใบหนึ่ง “ในตอนนั้น สภาพอ้อยดูแปลกๆ” “แปลก?” จริมพยักหน้า บอกเป็นนัยให้ตุนท์พูดต่อไป “หลานสาวของผม เธอ... เธอมีความบกพร่องทางสติปัญญา” ตุนท์พูดไปด้วย และชี้ไปที่ศีรษะของตัวเองไปด้วย “ถ้าหากว่าเธอไม่ได้เจอผมนานๆ เธอจะกลัวมาก จะร้องไห้เสียงดัง... แต่ว่าตอนที่ผมเจออ้อยในเช้าของวันนี้ เด็กคนนี้กลับนิ่งสงบ แค่ก้มหน้าเล่นของเล่นที่อยู่ในมือ ไม่พูดอะไรสักคำ” ตอนนั้นผมตกใจแทบแย่ รีบดึงอ้อยกลับบ้านทันที ในตอนที่ออกมาจากปากทางเข้าซอยอ้อยก็หยุดขึ้นมากะทันหัน มองไปหลังจากนั้นก็พูดขึ้นมา.... ใบหน้าของตุนท์ก็เผยให้เห็นถึงความตกใจระคนหวาดกลัว เหมือนกับว่ากำลังนึกถึงเรื่องที่น่ากลัวบางเรื่องอยู่ ปฏิกิริยาทั้งหมดเหมือนกับอารมณ์ที่เขาแสดงออกมาในเวลานี้ จริมคิดว่าตุนท์ไม่ได้พูดโกหก “พูดอะไรขึ้นมากะทันหัน?” ชนัตก็เดินเข้ามาใกล้ ถามขึ้นด้วยความตื่นเต้น ลูกกระเดือกตุนท์กระตุกขึ้นๆ ลงๆ ทันที พูดติดๆ ขัดๆ ว่า “อ้อยพูดว่า...พี่สาวกำลังมองพวกเราอยู่ด้านหลัง” “พี่สาว” “ตอนนั้นผมตกใจแทบแย่ ทั้งซอยนั้นนอกจากผมและเธอแล้วก็ไม่มีคนที่สามอยู่ นอกเสียจากว่า พี่สาวที่อ้อยพูดถึงจะเป็นผู้หญิงที่น่าสงสารคนนั้น” ในตอนนี้ อุณหภูมิบริเวณรอบๆ ก็แทบจะลดลงไปในจุดเยือกแข็งแล้ว ซอยที่มืดมิดนี้เหมือนกับว่ามีดวงตาอาฆาตแค้นคู่หนึ่งหลบซ่อนอยู่และกำลังแอบมองพวกเขาสามคนอยู่ในมุมมืด จริมก้มหน้าครุ่นคิด ลองเอาจุดที่ขัดแย้งกันออกมาจดเรียงให้เป็นระเบียบ หลังจากที่พบศพ เดิมทีตุนท์ก็ไม่อยากจะทำชั่วตามคนอื่น แต่ว่าหลังจากอ้อยพูดประโยคนั้นออกมา ตุนท์ก็กลัวว่าวิญญาณของชยานีจะไปหาถึงบ้าน ในที่สุดก็เลยโทรหาตำรวจ นี่ก็อธิบายได้ว่าทำไมเวลาแจ้งความและเวลาที่พบศพถึงห่างกันประมาณหนึ่งชั่วโมง และคืนนี้ตุนท์ก็มาปรากฏตัวทำพิธีกรรมเซ่นไหว้ให้กับผู้ตายที่นี่ ในบางส่วนก็กลัวว่าวิญญาณชยานีจะวนเวียนอยู่รอบๆ เขาและอ้อยต่อไป แต่ว่าแบบนี้ยังเป็นปัญหาที่ไม่สามารถตอบคำถามได้ ในฐานะที่เป็นพวกลัทธิไม่นับถือเทพเจ้า จริมไม่เชื่ออย่างแน่นอนว่าในโลกนี้จะมีผีสางเทวดาอยู่จริง พี่สาวที่อ้อยพูดออกมาเป็นใครกัน? และที่สำคัญคือ ถ้าหากว่าตุนท์อธิบายความจริงออกมาหมดแล้ว ถ้าอย่างนั้นตุ๊กตารูปคนที่อยู่ในคดีฆาตกรรมครั้งที่สี่ไปอยู่ที่ไหน? ทันใดนั้น เสียงคำรามของรถยนต์ก็ทำลายความเงียบสงบบริเวณรอบๆ ลง หลังจากนั้น จารุณีก็พาเพื่อนร่วมงานที่พิสูจน์รอยเท้ามาถึงที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว จารุณีก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก เธอไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทั้งสามคนที่ไม่มีวามเกี่ยวข้องกันแม้แต่น้อยมาอยู่ด้วยกันได้ยังไง? หลังจากที่เพื่อนร่วมงานในแผนกพิสูจน์รอยเท้าได้ดึงตัวอย่างรอยเท้าที่อยู่บนถนนของซอยถัดไปเสร็จแล้ว ก็รีบกลับไปที่หน่วยเพื่อสร้างแบบจำรอยรอยเท้าขึ้นมา เนื่องจากการเก็บรักษารอยเท้าที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ พรุ่งนี้ก็ก่อนเที่ยงก็น่าจะรู้ผล ชนัตเสียแรงโดยเปล่าประโยชน์ไปแล้วครั้งหนึ่ง จึงอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ให้จารุณีฟัง โดยเฉพาะตอนที่คนลึกลับนั่นลอบจู่โจมเขา อารมณ์ของชนัตยิ่งฮึกเหิมมากขึ้น แทบอยากจะจับเจ้านั่นมาเฉือนออกเป็นชิ้นๆ ในระหว่างนั้น ตุนท์ยืนอยู่ข้างๆ ชนัตอย่างไม่เป็นสุข เหมือนกับเด็กที่ทำอะไรผิดมา ส่วนจริมนั้นยังคงยืนอยู่ที่ปากทางของซอยที่สาม ทำหน้าที่เป็นประติมากรรม cosplay สรีระร่างกายของมนุษย์ “วิญญาณของชยานีเหรอ? ชนัต คุณกำลังสร้างเรื่องโกหกฉันอยู่หรือเปล่า?” เดิมทีจารุนีก็รู้สึกไม่ดีกับตุนท์อยู่แล้ว ได้ฟังชนัตพูดออกมาแบบนี้ ในใจก็ยิ่งลุกเป็นไฟอย่างไม่มีสาเหตุ “คุณตำรวจ ผมไม่ได้โกหกคุณนะ อ้อยพูดอย่างนี้จริงๆ” “ตุนท์ จะให้ฉันเข้าใจคุณไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เรื่องนี้มันเกี่ยวกับชีวิตของคนเลยนะ คุณต้องพูดความจริงกับฉัน ไม่อย่างนั้น ฉันก็คงช่วยคุณไม่ได้” พูดจบ จารุณีก็หยิบกุญแจมือออกมาจากด้านหลัง สำหรับคดีอาชญากรรม จารุณีจะไม่เอาความสงสารเข้ามาเกี่ยวข้อง ในสายตาของเธอ การกระทำปิดบังความจริงของตุนท์ก็เหมือนกับการช่วยเหลือฆาตกร “เดี๋ยวก่อน” จริมก็เดินเข้ามาอย่างฉับพลัน ยืนอยู่ระหว่างภาวิณีและตุนท์ “อย่าเพิ่งรีบร้อน ให้ผมได้คุยกับเขาก่อน ผมสามารถให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจกับคุยได้” ครั้งนี้ ดูเหมือนว่าจารุณีจะไม่หยุดลงมือการเคลื่อนไหว การกระทำที่ทำตามความคิดของตนโดยพลการของตน ทำให้ในใจของเธอตอนนี้รู้สึกไม่สบายใจ “ทำไมฉันต้องเชื่อนายด้วย?” “พวกเราต่างก็อยากจะไขคดีให้ได้ จับฆาตกรให้ได้ ดังนั้นก็ให้เวลาผมสักหน่อย ทั้งสองกันสบตากันเป็นเวลานาน ภายใต้คำแนะนำของชนัต ในที่สุดจารุณีก็ยอมถอยให้ สถานการณ์ตอนนี้อยู่ในการควบคุมแล้ว เธอสามารถจับกุมตุนท์เมื่อไหร่ก็ย่อมได้ แต่ว่าก่อนหน้าอื่น เธอจำเป็นต้องทำความเข้าใจกับจริมว่าเขาจะทำให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจได้อย่างไร “หนึ่งชั่วโมง ให้เวลานายหนึ่งชั่วโมง” “ไม่มีปัญหา” จริมพยักหน้า หมุนตัวมองไปยังตุนท์ที่มีอาการสั่นเทา “ท่านอาจารย์ ผมอยากให้ท่าให้ความร่วมมือกับผม” ถึงแม้ว่าตุนท์จะไม่ค่อยพูด แต่ก็มองออกว่าจริมกำลังจะช่วยเหลือตัวเองอยู่ เห็นดังนั้นแล้ว ก็รีบพยักหน้าตอบ “สหาย คุณอยากให้ผมทำอะไร?” “ผมอยากจะคุยกับหลานสาวของท่าน”
已经是最新一章了
加载中