ตอนที่ 16 ซักเสื้อผ้าให้คุณ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 16 ซักเสื้อผ้าให้คุณ
ต๭นที่ 16 ซักเสื้อผ้าให้คุณ “ทำไมกัน” หลินจื๋อซีที่อยู่ตรงประตูมองดูป๋ายปิงเวยด้วยความโกรธ ป๋ายปิงเวยซ่อนตัวอยู่ในผ้านวมไม่กล้าออกมา เป็นเพราะเสี่ยวชุ่ยแท้ๆ ดันไปพูดมากเสียนี่ แหงหละ เมื่อวานเขาทำดีกับเรามากขนาดนั้น พอรู้ว่าตัวเองถูกหลอกก็ต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเป็นธรรมดา บรรยากาศในห้องนั้นคละคลุ้งไปด้วยอารมณ์มาคุเป็นอย่างมาก หลินจื๋อซีหน้านิ่วคิ้วขมวดมองไปยังป๋ายปิงเวยที่นอนขดซ่อนตัวอยู่บนเตียง “ตอนนี้กลัวเป็นแล้วหรอ” เขาเดินตรงไปที่เตียงนอนแล้วดึงผ้าห่มของป๋ายปิงเวยขึ้นมา สายตาเหยี่ยวที่ดูเย็นชาคู่นั้นจ้องมองป๋ายปิงเวยนิ่งไม่คลาย ราวกับจะให้ทุละผ่านสาวสวยที่อยู่บนที่นอนอย่างไรอย่างนั้น ป๋ายปิงเวยไม่ต้องเงยหน้าขึ้นก็รู้ว่า แววตาของผู้ชายที่อยู่บนหัวเธอจ้องตัวเธออยู่ราวกับจะฆ่ากันให้ตาย ถูกเขามองเช่นนี้ในใจก็กลัวลนลานจนแทบจะระเบิดออกมา “คุณทำอะไร” ป๋ายปิงเวยถามขึ้นอย่างลนลาน หลินจื๋อซีมองเธอด้วยสายตาเหยี่ยว เขามองเข้าไปในตาของเธอราวกับจะให้จมลงไป เขาลากเธอลงมาจากเตียงแล้วพูดขึ้นว่า “ในเมื่อเธอกล้าโกหกฉัน ตอนนี้ทำไมถึงไม่กล้ามองฉันหละ” หลินจื๋อซีแผดเสียงคำรามราวกับถูกผีสิง ตามความคิดของป๋ายปิงเวยที่ต้องการเฉไฉให้เรื่องนี้ออกห่างความรับผิดชอบของเธอ : “ฉันโกหกคุณหรือ ฉันไปโกหกอะไรคุณ…” ป๋ายปิงเวยมองไปที่หลินจื๋อซี แสดงท่าทางอย่างไร้เดียงสา “ตอนเช้าวันนั้นฉันปวดท้องมากจนร้องไห้ออกมาแล้วยังไงหละ เรื่องที่พูดขึ้นเมื่อคืนว่ามันจบไปแล้ว ไม่ใช่เรื่องที่ฉันทำผ้าปูที่นอนของคุณเปื้อนหรือยังไง คุณจะทำตัวแบบนี้จริง ๆ หนะหรือ” ได้ยินคำพูดที่เล่นแง่เล่นกลเหล่านี้จากป๋ายปิงเวยแล้ว หลินจื๋อซีเองก็หมดคำพูดเช่นกัน เธอโกหกเขาแล้วยังผลักความรับผิดชอบเรื่องนี้มาให้เขาอีก นี่ถือเป็นครั้งแรกที่หลินจื๋อซีถูกหลอกอย่างอเน็จอนาจใจเช่นนี้ นึกถึงการดูแลเธอ ความรู้สึกผิดและไม่สบายใจที่มีต่อเธอเมื่อวาน พอคิดถึงตรงนี้แล้วก็รู้สึกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟของหลินจื๋อซีก็ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น เขาคือหลินจื๋อซี ราชาแห่งวงการธุรกิจ แต่กลับถูกผู้หญิงหลอกเรื่องบนเตียงจนถึงขั้นกระวนกระวายจนหาทางออกไม่ได้ เขาก้มลงมองป๋ายปิงเวยคนที่ตัวเล็กกว่าเขาคนนั้น คิดว่าผู้หญิงคนนี้ควรที่จะถูกตีก้นจริงๆ “เสี่ยวชุ่ย…เสี่ยวชุ่ย…” “คุณผู้ชาย มีเรื่องอะไรหรือคะ” เสี่ยวชุ่ยรีบวิ่งขึ้นมาอย่างลนลาน หลินจื๋อซีจัดการผูกเนคไทของเขาขึ้นแล้วพูดว่า: “หลังจากนี้งานของเธอให้คุณผู้หญิงทำก็แล้วกัน สอนเธอให้ทำงานบ้านให้ดีด้วย” “ขี้เหนียวจริง ๆ” ป๋ายปิงเวยบ่นขึ้นมาเบาๆแต่ก็ดันถูกหลินจื๋อซีได้ยินเข้า “ตอนที่ฉันกลับมาหวังว่าจะเห็นป๋ายปิงเวยทำทุกอย่างได้แล้ว” พูดจบหลินจื๋อซีก็รีบเดินออกไปจากห้องนอนทันที เสี่ยวชุ่ยที่ยืนอยู่ด้านนอกประตูโดยที่ก็ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น : “คุณผู้หญิง….” ป๋ายปิงเวยมองดูแผ่นหลังของหลินจื๋อซีที่เดินลับหายไป ในใจก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกน่าขันที่ประธานหลินช่างตระหนีถี่เหนียวขนาดนี้ ก็แค่ให้ทำงานบ้านรับใช้เค้าใช่ไหมหละ So easily! “เสี่ยวชุ่ย เอางานของเธอทั้งหมดมาให้ฉันทำก็พอแล้ว ถ้าฉันอยากจะดูแลสามีของตัวเองให้ดีก็ต้องเริ่มจากงานเล็ก ๆแบบนี้ก่อน ดีใช่ไหมหละ” พอได้ฟังป๋ายปิงเวยพูดแบบนี้แล้ว เสี่ยวชุ่ยก็วางใจไปได้เปราะหนึ่ง แม้เธอจะเป็นถึงภรรยาของประธาน แต่เธอก็ไม่ใช่คนขี้เกียจเลยสักนิด “ได้ค่ะคุณผู้หญิง งั้นตามฉันมาค่ะ!” ป๋ายปิงเวยเดินตามเสี่ยวชุ่ยเข้าไปซักผ้า เธอมองดูห้องซักรีดขนาดประมาณ 200 ตารางเมตรที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้าและอุปกรณ์ซักผ้าทุกชนิด ป๋ายปิงเวยถอนหายใจเฮือกใหญ่ เสียวชุ่ยเธอไม่ได้รับใช้เพียงแค่ป๋ายปิงเวยเท่านั้น ท้ายที่สุดเสี่ยวชุ่ยเธอก็ไม่สามารถละเลยคำสั่งของประธานได้ เธอนับเสื้อสูทที่มีอยู่เต็มห้อง “คุณผู้หญิง ทั้งหมดนี่คือเสื้อผ้าของประธานค่ะ ดิฉันดูแลในส่วนของการซักเสื้อผ้าและเก็บกวาดห้องให้กับประธานค่ะ” หลังจากป๋ายปิงเวยเดินไปรอบ ๆ ภายในห้องซักรีดขนาดใหญ่นี้แล้วพูดขึ้นว่า : “ถ้าแค่เสื้อผ้าแค่นี้ฉันเองก็ทำได้” ส่วนชุ่ยพูดด้วยความนอบน้อม: “เสื้อผ้าของประธานล้วนแล้วแต่ตัดเย็บอย่างดี เนื้องานต่างประณีตและพิถีพิถันทั้งนั้น วิธีการซักก็มีมากด้วยเช่นกัน……”ฟังเสี่ยวชุ่ยสาธยายถึงเรื่องต่างๆแล้วทำให้ป๋ายปิงเวยรู้สึกหมดความอดทน : “โอเค เธอออกไปเถอะ” เสี่ยวชุ่ยเดินออกประตูไปอย่างสุขุม คิดว่าชีวิตในอนาคตของเธอหลังจากวันนี้คงจะง่ายขึ้น และหลายคนก็คงจะดีใจไม่ใช่น้อย แม้แต่เดินก็ยังรู้สึกได้ถึงลมที่อยู่ใต้เท้า… “ก็ซักแค่ไม่กี่ตัวไม่ใช่หรือไง ก็ไม่เห็นจะมีอะไรสำคัญตรงไหนหนิ” ป๋ายปิงเวยพูดว่าทำได้ก็ต้องทำได้ หลังจากจำแนกประเภทเสื้อผ้าของหลินจื๋อซีเสร็จเธอก็เริ่มซักอย่างระมัดระวังทีละตัว ตอนที่ซักเสื้อผ้าของหลินจื๋อซี ป๋ายปิงเวยก็พบว่ามีเศษเส้นผมและรอยลลิปสติกอยู่บนปกคอเสื้อของหลินจื๋อซี ป๋ายปิงเวยไม่รู้จะพูดอย่างไรกับผู้ชายคนนี้ดี อยู่นอกบ้านตั้งแต่เช้าถึงเย็นนี่คือไปทำงานหรีอว่าไปมีอะไรกับผู้หญิงกันแน่ บนเสื้อผ้าถ้าไม่ใช่เศษเส้นผมก็ต้องเป็นรอยลิปสติกสิหน่า… หลังจากซักผ้าอยู่นานป๋ายปิงเวยถึงได้เอาเสื้อผ้าของหลินจื๋อซีที่ซักเสร็จแล้วออกมารีดอย่างระมัดระวัง พับเสร็จแล้วจึงนำเข้าไปเก็บไว้ในห้องเสื้อผ้า เธอให้คะแนนตัวเอง 100 คะแนนเมื่อเห็นว่าการทำงานของตัวเองประสบผลสำเร็จ ต่อไปคงถึงเวลาทำความสะอาดห้องแล้วหละ ถึงแม้ป๋ายปิงเวยจะมีประจำเดือนอยู่ก็ไม่เป็นผล ซักผ้าด้วยน้ำเย็นมาแล้วทั้งวันก็รู้สึกปวดเมื่อยขึ้นมาบ้างเล็กน้อย มองไปที่นาฬิกาแขวนผนัง หลินจื๋อซีน่าจะใกล้กลับมาแล้วแน่ๆ ไม่มีเวลามานั่งพักแล้ว ป๋ายปิงเวยการทำความสะอาดห้องนอนอย่างคล่องแคล่ว เปลี่ยนแผ่นผ้าปูที่นอนทั้งหมดที่นอนไปแล้วเมื่อคืนด้วยผ้าปูใหม่ที่ทำความสะอาดใหม่ แล้วดูดฝุ่นพรมทั้งหมดอีกครั้ง เธอมองดูห้องนอนที่เป็นระเบียบเรียบร้อย ป๋ายปิงเวยก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างขาดหายไป “อ้อ มีสิ” ป๋ายปิงเวยวิ่งไปที่สวนของบ้านตระกูลหลินด้วยดวงตาที่เป็นประกาย เธอเด็ดเอาดอกกล้วยไม้หลากสีใส่ไว้ในแจกันดอกไม้แบบใส หลังจากนั้นจึงรีบนำกลับไปวางไว้ในห้องนอน เธอตกแต่งห้องนอนที่หรูหราด้วยดอกไม้ที่เพิ่มเข้ามาให้ดูสวยงามและมีชีวิตชีวามากขึ้น ป๋ายปิงเวยเชื่อฟังคำที่หลินจื๋อซีบอกให้เธอทำทั้งหมดนี้ ไม่ใช่เพราะว่าเธอกลัวเขาหรอกนะ และเขาก็คงต้องการให้เธออับอายต่อหน้าคนอื่นใช่ไหมหละ ถ้าอย่างงั้นเธอก็ควรทำทุกอย่างให้ออกมาสมบูรณ์แบบและไร้ที่ติสิถึงจะถูก ทำให้เขาโกรธจนเป็นบ้าไปเลย ถ้าเขาโกรธเธอมาก เขาอาจจะอยากหย่าขาดกับเธอเร็วขึ้น ท้องน้อยของป๋ายปิงเวยเริ่มปวดเพิ่มมากขึ้น ตอนแรกป๋ายปิงเวยคิดว่าเธอจะนอนลงบนเตียงเสียหน่อย แต่ทว่าพอมองดูผ้าปูเตียงที่ตัวเองปูแล้วก็พลันนึกถึงสีหน้านิ่วคิ้วขมวดของหลินจื๋อซีขึ้นมา ป๋ายปิงเวยเลยอาศัยโซฟาที่อยู่ด้านหน้าเตียงงีบหลับลง หลังจากที่หลินจื๋อซีกลับมาถึงได้รู้ว่าแม่หลินและปู่หลินได้เดินทางไปสวิสเซอร์แลนด์เพื่อไปเยี่ยมญาติ เขารีบกินข้าวอยู่คำสองคำแล้วจึงเดินขึ้นไปชั้นบน เขาเห็นป๋ายปิงเวยที่นอนหลับอยู่บนโซฟา ด้วยความโกรธที่ยังหลงเหลืออยู่ เขาได้ใช้มือใหญ่ๆของเขาดึงป๋ายปิงเวยให้ลุกขึ้นมา ป๋ายปิงเวยที่กำลังหลับอยู่ก็รู้สึกได้ว่าตัวเองถูกใครบางคนกำลังใช้กำลังฉุดรั้งร่างกายของเธอ เธอตื่นขึ้นมาด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิด และอยากจะถามคนที่ดึงตัวเธอให้ตื่นขึ้นมาว่าทำไปทำไม เธอเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าที่ไร้อารมณ์ของหลินจื๋อซี เธอรู้สึกไม่พอใจแล้วสะบัดมือของหลินจื๋อซีออก “ฉันอยากจะเปลี่ยนเสื้อ” หลินจื๋อซีออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา ป๋ายปิงเวยก็ไม่ขัดคำสั่งนั้น ใช้สองมือเล็ก ๆ ค่อย ๆ ปลดกระดุมเสื้อของหลินจื๋อซีออกทีละน้อย ในขณะที่กำลังปลดกระดุมเสื้อออกนั้น ป๋ายปิงเวยก็ได้กลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงและสังเกตเห็นรอยลิปสติกสีสันสดใส ในใจป๋ายปิงเวยเริ่มมีความรู้สึกดูถูกเหยียดหยามต่อหลินจื๋อซีเล็กน้อย อยู่ข้างนอกจริงๆแล้วยังมีผู้หญิงอีกกี่คนกันนะ แทบจะมองไม่เห็นเสื้อ ทั้งตัวมีแต่รอยลิปสติก น้ำหอมนี้ก็ไม่ใช่ที่ติงมั่นลี่ใช้ จมูกที่บอบบางของป๋ายปิงเวยวิเคราะห์กลิ่นต่าง ๆบนตัวของหลินจื๋อซี ผู้ชายคนนี้ช่างมีเสน่ห์ต่อสาวๆอย่างเหลือร้ายจริง ๆ หลินจื๋อซีสังเกตเห็นการแสดงออกทางสีหน้าของป๋ายปิงเวย ไม่รู้ทำไมหลินจื๋อซีถึงไม่ค่อยสบอารมณ์กับท่าทีที่ดูนิ่งๆของป๋ายปิงเวย มือใหญ่ๆของเขาจับคางของป๋ายปิงเวยขึ้นมาและจ้องมองเธออย่างเดือดดาล ป๋ายปิงเวยก็เชิดหน้าไม่ก้มศีรษะของเธอลงพร้อมกับจ้องมองหลินจื๋อซี “ฮึ่ย! …” หลินจื๋อซีผลักป๋ายปิงเวยให้ออกห่าง แล้วหันหลังกลับเข้าไปในห้องอาบน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตา เมื่อเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าก็พบว่าห้องเสื้อช่างเป็นระเบียบจนน่าประหลาดใจ หลินจื๋อซีเปลี่ยนใส่ชุดนอนตามใจชอบแล้วจึงเดินออกไป เขาเดินไปหน้าโต๊ะหนังสือแล้วจุดบุหรี่ขึ้นและมองดูห้องนอนของตัวเอง ช่างสะอาดและดูเป็นระเบียบเรียบร้อยขึ้นมาก มองดูดอกกล้วยไม้สีขาวที่วางอยู่บนโต๊ะ สูดดมกลิ่นหอมของดอกไม้ก็ทำให้หลินจื๋อซีอารมณ์ดีขึ้น ป๋ายปิงเวยนำเสื้อผ้าที่หลินจื๋อซีพึ่งเปลี่ยนไปทำความสะอาดที่ห้องซักผ้า เธอไม่ต้องการเห็นผู้ชายคนนี้บ่อยๆจึงเดินไปซักผ้าอย่างไม่ลังเล เธอค่อยๆเทผงซักฟอกด้วยความระมัดระวัง แล้วจึงค่อยๆซักรอยลิปสติกที่ติดอยู่บนปกคอเสื้อทีละนิดทีละนิดอย่างเบามือ ป๋ายปิงเวยรู้สึกว่าเธอเป็นภรรยาที่ดีที่สุดในโลก ในขณะที่สามีของเธอออกไปมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนอื่น พอกลับมาบ้านก็ให้เธอซักเสื้อผ้าที่มีรอยเปื้อนของลิปสติกให้กับเขา เขาควรจะรู้สึกพอใจกับสิ่งนี้นะ หลินจื๋อซีเมื่อเห็นว่าป๋ายปิงเวยหายไปนานไม่กลับมาเสียทีก็รู้สึกไม่พอใจ จึงเดินลงไปชั้นล่างเพื่อตามหาเธอ เซียงเซียงบอกว่าป๋ายปิงเวยอยู่ที่ห้องซักรีด เมื่อเขาเดินไปที่ห้องซักรีดแล้วมองดูท่าทางของป๋ายปิงเวยที่ดูตั้งใจซักเสื้อให้ตน หัวใจก็เต้นแรงขึ้นมา ป๋ายปิงเวยซักเสื้อผ้าทุกชิ้นอย่างระมัดระวัง หลังจากซักเสร็จก็พับเก็บอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย หลังจากอบแห้งก็รีดเสื้อเชิ้ตของหลินจื๋อซีอย่างเบามือ หลินจื๋อซีในตอนนี้นั้นรู้สึกราวกับว่าเขากำลังเปรียบเทียบป๋ายปิงเวยกับหญิงสาวที่เกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย หรือแม้กระทั่งนางแบบที่มีชื่อเสียง ป๋ายปิงเวยในขณะนี้ช่างสวยจนหาที่เปรียบมิได้จริงๆ ความสวยงามของเธอทำให้เขาตกตะลึงจนตาค้าง… 
已经是最新一章了
加载中