ตอนที่ 17 คนที่ฉันชอบ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 17 คนที่ฉันชอบ
ต๭นที่ 17 คนที่ฉันชอบ ป๋ายปิงเวยไม่รู้ตัวว่าหลินจื๋อซียืนอยู่ด้านนอกประตู หลังจากพับผ้าอย่างตั้งใจ เธอก็เตรียมตัวกลับห้องเพื่อที่จะไปพักผ่อน ทำงานมาแล้วทั้งวันเธอรู้สึกเหนื่อยมากจริงๆ เงยหน้าขึ้นมาก็เจอดวงตาคู่นั้นของหลินจื๋อซีที่มองมาที่เธอ “ขอโทษนะ หลินจื๋อซี” ป๋ายปิงเวยมองดูหลินจื๋อซีอย่างถ่อมตัว หลินจื๋อซีหันตัวไปด้านข้างเล็กน้อย ป๋ายปิงเวยรีบเดินกลับไปที่ห้องนอน เมื่อถึงห้องนอนป๋ายปิงเวยก็จัดการเก็บเสื้อเชิ้ตอย่างดีแล้วเตรียมตัวเปลี่ยนชุดอาบน้ำนอน “ออกไป”น้ำเสียงเยือกเย็นเช่นนี้จะเป็นใครไปได้นอกจากหลินจื๋อซี “อ่อ” ป๋ายปิงเวยตอบกลับไปแล้วเดินออกไปจากห้องโดยไม่หันกลับมา เดินออกไปจากบ้านตระกูลหลิน เธอเดินออกจากประตูไป พนักงานรักษาความปลอดภัยที่ทำหน้าที่อยู่มองเธอด้วยอาการสับสนแล้วโพล่งขึ้นว่า “คุณผู้หญิงครับ ดึกมากแล้ว ยังจะออกไปข้างนอกอีกหรือครับ” ป๋ายปิงเวยได้แต่ยิ้มอย่างสุภาพแต่ก็ไม่พูดอะไร เธอไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับหลินจื๋อซีอีก มันคงเป็นความรู้สึกคับแค้นใจของประธานอย่างเขาเมื่อรู้ว่าตัวเองถูกหลอก แต่เธอก็รู้สึกคับแค้นใจเช่นเดียวกันเวลาที่เธอถูกเขาทำร้ายจิตใจไม่ใช่หรืออย่างไร ครั้งนี้เขาเป็นคนที่ต้องการให้เธอไป ไม่มีรถก็ไม่เป็นไร ถึงแม้จะต้องเดินออกไปจากที่นี่ด้วยขาของเธอเอง ป๋ายปิเวยก็ยินดี หลินจื๋อซีคิดว่าผู้หญิงคนนั้นก็แค่เดินออกจากห้องนอนไปที่ห้องโถงใหญ่ก็เท่านั้น แต่ไม่คิดว่าจะได้รับโทรศัพท์จากพนักงานรักษาความปลอดภัยว่าคุณผู้หญิงออกนอกประตูไปแล้ว ความโกรธของหลินจื๋อซีปะทุรุนแรงมากยิ่งขึ้น ผู้หญิงคนนั้นควรจะต้องกุลีกุจอมาขอโทษเขาไม่ใช่หรือ ตั้งแต่เธอย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ หลินจื๋อซีก็รู้สึกว่านับวันนับวันก็ยิ่งไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ ตอนนี้ผู้หญิงคนนี้ยังกล้าออกไปจากบ้านตระกูลหลิน ยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ บรรยากาศรอบตัวหลินจื๋อซีแผ่ปลกคลุมไปได้ความเยือกเย็น เขาเปิดประตูเสียงดังและออกไปอย่างเร่งรีบ เฉียงขับรถออกไป เขามองดูประธานผ่านกระจกมองหลัง แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยเห็นประธานจะโกรธได้ถึงเพียงนี้ ครั้งนี้แม้แต่หายใจเฉียงยังไม่อาจกล้าเลย เขาได้แต่ขับรถออกไปอย่างระมัดระวัง ป๋ายปิงเวยเดินไปตามทางของถนนบนภูเขาด้วยความเร็ว เธอรู้ว่าตนเองคงหนีไม่พ้นเงื้อมมือของหลินจื๋อซีไปได้ เธอยังติดหนี้เขาอยู่หนึ่งล้าน ตัวเองเป็นภรรยาในนามของเขา พวกเขาพึ่งจะแต่งงานกันได้แค่หนึ่งเดือน หลินจื๋อซีคงไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆแน่ ๆ แต่ป๋ายปิงเวยก็กล้าพอที่จะเดินออกมาจากบ้านตระกูลหลิน ทำให้ผู้ชายคนนั้นรู้ว่าเธอเองก็มีอารมณ์ความรู้สึกเช่นกัน เฉียงขับรถไปอย่างช้า ในที่สุดก็เจอป๋ายปิงเวย “ประธานครับ…” เฉียงค่อยๆมองหลินจื๋อซี หลินจื๋อซีเปิดประตูรถลงมา เขาเดินลงจากรถไปอย่างสง่างามแล้วมุ่งตรงไปยังด้านหลังของป๋ายปิงเวยแล้วจึงอุ้มป๋ายปิงเวยโยนเข้าไปยังที่นั่งเบาะหลังของรถ เมื่อกลับถึงบ้านตระกูลหลิน หลินจื๋อซีก็อุ้มป๋ายปิงเวยเดินตรงเข้าไปยังห้องนอนทันที พนักงานรักษาความปลอดภัยและสาวใช้ต่างตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ประธานผู้หยิ่งยะโสของพวกเขานึกไม่ถึงเลยว่าจะอุ้มคุณผู้หญิงกลับมาบ้านเช่นนี้ “น่าอิจฉาคุณผู้หญิงจริง ๆ” สาวใช้หลายคนแอบกระซิบกระซาบพึมพำ หลังกลับถึงห้องนอนหลินจื๋อซีก็โยนป๋ายปิงเวยขึ้นไปไว้บนเตียง ป๋ายปิงเวยไม่พูดอะไร และยังไม่ขัดขืน เธอตะเกียกตะกายขึ้นจากเตียงแล้วเดินไปนั่งลงที่โซฟา ตัวเองก็รู้สึกงงงวย ยิ่งป๋ายปิงเวยไม่ตอบโต้อะไร ความโกรธของหลินจื๋อซีก็ยิ่งทวีความรุนแรงอย่างบ้าคลั่งมากขึ้น “ทำไมเธอถึงต้องไป” “ก็เพราะคุณให้ฉันไสหัวออกไปยังไงหละ” ป๋ายปิงเวยตอบหลินจื๋อซีกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ทำไมเธอต้องโกหกฉัน” หลินจื๋อซีเดินเข้าประชิดตัวป๋ายปิงเวยแล้วเชิดคางของเธอขึ้นมา เขามองเธอจากด้านบนอย่างใกล้ชิด “ฉันไม่ต้องการให้คุณมาแตะต้องตัวฉัน ประธานหลินพวกเราคุยกันแล้วไม่ใช่หรือว่า ข้อตกลงในการแต่งงานปลอมๆของพวกเราคือคุณจะไม่แตะต้องฉัน แต่ดูคุณสิ” ป๋ายปิงเวยมองไปที่หลินจื๋อซีอย่างไม่มีทางเลือก ที่แท้เธอก็เกลียดเขามากนี่เอง ถึงได้พยายามปกป้องตัวเองด้วยการโกหก เมื่อคิดถึงตรงนี้ในใจของหลินจื๋อซีก็เจ็บปวดไม่ใช่น้อย เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมคำพูดเหล่านี้ ของผู้หญิงคนนึ้ถึงได้ทำให้เขาโกรธมากเสียจริง “รังเกียจที่ฉันแตะต้องเธอใช่ไหม” หลินจื๋อซีคำรามใส่เธอด้วยความโกรธเกรี้ยวไปพลาง ฉีกเสื้อของเธอไปพลาง แม้ต้องเผชิญหน้ากับหลินจื๋อซีที่บ้าคลั่งอยู่เบื้องหน้าเธอในขนะนี้ แต่ป๋ายปิงเวยก็ไม่แม้แต่จะต่อสู้หรือขัดขืน เธอรู้สึกได้ถึงความโกรธที่ไม่มีที่สิ้นสุดของผู้ชายคนนี้ สิ่งที่เธอจะรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงนี้ได้ก็มีแต่ยอมทำตามที่เขาต้องการก็เท่านั้น หลินจื๋อซีเห็นป๋ายปิงเวยไม่ตอบโต้ก็ยิ่งโกรธมากยิ่งขึ้น ดึงข้อมือของป๋ายปิงเวยเข้าไปในห้องอาบน้ำ เขาเปิดน้ำเย็นจนเต็มอ่างอาบน้ำแล้วจึงโยนตัวป๋ายปิงเวยเข้าไปในนั้น “ในเมื่อเธอไม่ชอบที่ฉันแตะต้องตัวเธอ งั้นตอนนี้ฉันก็จะล้างเธอให้สะอาดก็แล้วกัน” ป๋ายปิงเวยนอนแช่อยู่ในน้ำเย็น ถึงแม้ว่าอากาศในช่วงฤดูร้อนจะร้อนมาก แต่เธอก็รู้สึกว่าน้ำที่แช่อยู่ในตอนนี้นั้นช่างหนาวจนเข้ากระดูก “หลินจื๋อซี คุณมีเหตุผลหน่อยไม่ได้หรือ…” ป๋ายปิงเวยพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ผู้ชายคนนี้ช่างเข้าใจยากจริง ๆ มักจะมีอารมณ์หงุดหงิดอยู่ตลอดเวลา ยากแก่การเข้าถึง… “ฉันเกลียดการโดนคนอื่นหลอก” หลินจื๋อซีบีบหน้าของป๋ายปิงเวยที่เล็กเท่าฝ่ามือแล้วพูดเน้นทีละคำ “จะให้พูดอีกที เธอก็นอนกับฉันแล้ว ยังจะมาสนใจอะไรว่าฉันจะแตะหรือไม่แตะต้องตัวเธอ” “ไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนจะเหมือนติงมั่นลี่” ป๋ายปิงเวยได้ยินคำดูหมิ่นของหลินจื๋อซีจึงตอบกลับในทันที “จะให้พูดอีกทีรอบตัวของประธานหลิน แม้หากว่าไม่มีฉันสักคนก็คงไม่เป็นไร” “ถึงแม้จะมีเธอรวมอยู่ด้วยก็คงไม่ต่างกัน” หลินจื๋อซีถลึงตาขึ้นแล้วพูดว่า: “เธอรู้ไหมว่ามีผู้หญิงอีกตั้งเท่าไหร่ที่อยากจะปีนขึ้นมาร่วมหลับนอนกับฉันบนเตียงนี้” ป๋ายปิงเวยเหลือบสายตาหันไปมองหลินจื๋อซี “ฉันมีคนที่ชอบแล้ว ประธานหลินเรามาร่วมมือกันเถอะ ที่ฉันโกหกคุณเป็นความผิดของฉันเอง หวังว่าคุณจะให้อภัย” ในที่สุดก็ได้ยินผู้หญิงคนนี้ขอโทษ แต่ว่าหลินจื๋อซีกลับไม่รู้สึกดีใจแม้แต่นิด ที่แท้ในใจเธอก็มีคนที่ชอบอยู่แล้วถึงได้ปกป้องความบริสุทธิ์ของเธอ หลินจื๋อซีรู้สึกแปลกๆขึ้นมา เหตุผลดังกล่าวดึงเขาให้กลับมาสู่โลกของความเป็นจริงอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่าตัวเองใส่ใจกับความรู้สึกของผู้หญิงคนนี้จนมากเกินไป เขาเก็บซ่อนอารมณ์ของตัวเองไว้ แล้วหันหลังเดินออกจากห้องอาบน้ำไปในทันที ป๋ายปิงเวยถอนใจแล้วจึงเตรียมตัวลุกออกจากอ่างอาบน้ำ แต่ก็รู้สึกหนักที่หัว ขาและมือไม่มีแรง ร่างกายรู้สึกอ่อนแรงจนไม่สามารถมองสิ่งต่างๆเบื้องหน้าได้อย่างชัดเจน หลินจื๋อซีนั่งลงตรงโต๊ะอ่านหนังสือแล้วเริ่มจุดบุหรี่ขึ้น ภายในห้องนอนมืดสนิท เปลวไฟเล็กๆจากบุหรี่นั้นสว่างไสวขึ้นอย่างชัดเจน หลินจื๋อซีเริ่มคิดถึงสิ่งต่างๆที่ตัวเองได้ทำไปในวันนี้ อารมณ์ของเขานั้นก็แปรปรวนมากด้วยเช่นกัน ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ยากที่จะควบคุมอารมณ์ตัวเองในเวลาที่อยู่ต่อหน้าอยู่หญิงคนนี้ เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่กล้ากับเขา มองไปยังไฟที่เปิดอยู่ในห้องน้ำ ไม่เห็นป๋ายปิงเวยออกมาจากห้องน้ำนานแล้ว เธอกลัวฉันขนาดนั้นเลยหรอ ถึงได้อยู่แต่ในนั้นเป็นเวลานานจนไม่ยอมออกมาเสียที หลินจื๋อซีดับบุหรี่ลงแล้วจึงเดินเข้าไปในห้องอาบน้ำ น้ำในอ่างอาบน้ำเต็มไปด้วยเลือด ร่างของป๋ายปิงเวยนอนคว่ำตัวอยู่ในอ่างอาบน้ำด้วยในหน้าที่ซีดเซียว “เธอเป็นอะไรไปหน่ะ” หลินจื๋อซีคิดว่าผู้หญิงคนนี้เล่นตลกกับเขาอีกแล้วกระมัง เขาตีหน้าเธอเบาๆ ใบหน้าเรียวเล็กของเธอนั้นช่างเย็นยะเยือกราวกับไม่มีเลือดไหนผ่าน เมื่อเห็นว่าป๋ายปิงเวยไม่มีการตอบสนองใด ๆ หลินจื๋อซีถึงได้เชื่อจริง ๆว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เล่นตลกกับเขา เขารีบนำตัวป๋ายปิงเวยออกจากอ่างอาบน้ำในทันที แล้วจึงรีบก้าวเท้าเดินออกนอกประตูไป “เฉียง เฉียง! รีบไปโรงพยาบาลเร็ว…เร็วเข้า…” เฉียงเห็นประธานอุ้มคุณผู้หญิงที่หมดสติอยู่ก็รู้เลยว่าเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นแล้ว จึงรีบไปที่โรงพยาบาลราวด้วยความเร็วราวกับพายุเฮอริเคนที่พัดผ่าน หลินจื๋อซีมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลของครอบครัวหลิน ฝ่ายหัวหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในขณะนั้นเมื่อเห็นว่าเป็นหลินจื๋อซี ก็ยิ่งไม่กล้าเพิกเฉยกับสถานการณ์นั้น ๆ เขาจัดเตรียมนางพยาบาลเพื่อรักษาและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับป๋ายปิงเวยในทันที หลินจื๋อซีและเฉียงนั่งรออยู่นอกห้องผ่าตัดอย่างเงียบๆ หลินจื๋อซีพยายามควบคุมสติและความวิตกกังวลภายในจิตใจของเขา ถ้าไม่ใช่เพราะตัวเองให้เธอไปแช่ตัวในน้ำเย็นแบบนั้น เธอก็คงจะไม่เป็นลมแบบนี้ ไฟห้องผ่าตัดดับลง คุณหมอเปิดประตูออกมาแล้วพูดว่า: “ประธานหลิน คุณผู้หญิงอยู่ในช่วงเวลาที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน เป็นเพราะว่าเธอหักโหมจนเกินไปจึงทำให้เป็นลมไปเช่นนั้น ตอนนี้ไม่มีอะไรให้น่าเป็นห่วงแล้ว รอคุณผู้หญิงตื่นแล้วค่อยกลับบ้านไปพักผ่อนก็พอแล้วหละครับ” หลังจากได้ยินว่าผู้หญิงคนนั้นไม่มีอะไรน่าห่วงแล้ว หลินจื๋อซีก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก : “เฉียง หลังจากคุณป๋ายตื่นแล้วก็พาเธอกลับบ้านไปพักฟื้นด้วย ฉันไปทำธุระต่างประเทศสองสามวัน” หลินจื๋อซีอยากให้เธอได้พักสักสองสามวัน วันนี้พวกเขาทะเลาะกันไม่ได้มีความสุขเลย เขาก็ไม่ต้องการให้มีเรื่องอื่น ๆเพิ่มขึ้นมาอีก ถ้าถูกคุณปู่รู้ความจริงเข้าก็คงไม่ดีแน่ หลังจากกำชับเฉียงเสร็จ หลินจื๋อซีในชุดสูทสวมรองเท้าหนังก็เดินออกจากโรงพยาบาลไปด้วยขายาวๆของเขา เฉียงที่นั่งอยู่ริมทางเดินได้แต่นั่งรอป๋ายปิงเวยตื่นอย่างเงียบๆ
已经是最新一章了
加载中