ตอนที่ 20 ผู้ชายคนนี้ต้องเป็นของฉันเท่านั้น
1/
ตอนที่ 20 ผู้ชายคนนี้ต้องเป็นของฉันเท่านั้น
How Much หัวใจฉัน(ไม่)มีขาย
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 20 ผู้ชายคนนี้ต้องเป็นของฉันเท่านั้น
ตนที่ 20 ผู้ชายคนนี้ต้องเป็นของฉันเท่านั้น ติงมั่นลี่วิ่งร้องไห้ออกไปจากบ้านของตระกูลเจียง นั่งร้องไห้ฟูมฟายอยู่ในรถ เธอกลายมาเป็นนางแบบแถวหน้าได้ด้วยความพยายามของเธอเอง ทั้งยังเป็นที่โปรดปรานของหลินจื๋อซี หลินจื๋อซีไม่เคยเมินเฉยและไม่เคยพูดจากับเธอด้วยน้ำเสียงที่ดุดันเช่นนี้มาก่อนเลย นับตั้งแต่ผู้หญิงคนนี้ปรากฏตัวขึ้นมา หลินจื๋อซีเพียงแค่ได้เห็นผู้หญิงคนนั้นก็พยายามปกป้องเธอขึ้นมาทันที ตอนนี้ยังอยากที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นอีก ฉันติงมั่นลี่ที่อยู่เคียงข้างกายหลินจื๋อซีมาตลอด5ปีที่ผ่านมา ทำไมถึงได้มีค่าน้อยไปกว่านังผู้หญิงคนนี้กัน ยิ่งคิดติงมั่นลี่ก็ยิ่งแค้น เล็บสีแดงที่ถูกตกแต่งอย่างประณีตนั้นถูกกำแน่นในทันที ติงมั่นลี่จู่ๆเธอก็คิดอะไรขึ้นมาได้: “นังสารเลว เธอจะมาโทษฉันไม่ได้นะ” ติงมั่นลี่สงบสติอารมณ์ของเธอลงแล้วจึงปาดน้ำตาของเธอ เธอแต่งเติมใบหน้าที่เปื้อนคราบเครื่องสำอางหลังจากที่ตัวเองร้องไห้ไป เธอต่อสายสัญญาณโทรศัพท์บลูทูธแล้วพูดขึ้น: “บอกให้เปียวหาคนมาสักสองสามคนสิ ฉันมีงานให้ทำ” ติงมั่นลี่เผยอมุมปากขึ้นมาแล้วน้อยแล้วกดวางสายลง: “หลินจื๋อซีต้องอยู่ในเงื้อมมือของฉันเท่านั้น” “เธอเหยียบคันเร่งแล้วออกตัวไปในทันที…… เฉียงขับรถออกไปอย่างราบรื่น หลินจื๋อซีและป๋ายปิงเวยนั่งเงียบอยู่ในรถไม่มีแม้แต่คำพูดเดียวหลุดออกมาจากปากทั้งสอง ป๋ายปิงเวยหันหน้าของเธอเหม่อมองทิวทัศน์ไปนอกหน้าต่าง หลินจื๋อซีหลับตาลงอย่างสงบนิ่ง บรรยากาศภายในรถช่างอบอวลไปด้วยอารมณ์อึมครึมชวนให้อึดอัด “เฉียง ประกาศออกไปด้วยว่า ฉันขอยกเลิกการประกาศต่างๆของติงมั่นลี่เป็นเวลาหนึ่งปี” หลินจื๋อซีโพล่งขึ้นมาอย่างไร้อารมณ์ เฉียงตกตะลึงงึนงันในทันที “ครับ ประธาน” หลินจื๋อซีหันตัวไปด้านข้างแล้วใช้มือใหญ่ของเขาสัมผัสใบหน้าของป๋ายปิงเวย: “ยังเจ็บอยู่ไหม” ป๋ายปิงเวยยังคงนั่งเหม่อมองไปยังทิวทัศน์นอกหน้าต่างอยู่เช่นนั้น: “ฉันไม่เป็นไร คุณไปปลอบใจเธอเถอะ” หลังจากพูดจบประโยคนี้ บรรยากาศภายในรถก็ยิ่งแปลกไปมากยิ่งขึ้น หลินจื๋อซีได้ฟังคำพูดเหล่านี้แล้วรู้สึกได้ถึงความอิจฉาอย่าประชดประชันของป๋ายปิงเวยเล็กน้อย เมื่อได้ยินป๋ายปิงเวยพูดอย่างนี้ ความโกรธของหลินจื๋อซีในช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้ก็ลดน้อยลงในทันที หลังจากกลับมาถึงบ้านตระกูลหลิน หลินจื๋อซีก็สั่งให้เซียงเซียงนำยาน้ำบรรเทาอาการปวดบวมมาให้ ป๋ายปิงเวยที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งค่อยๆแกะเปียที่เซียงเซียงทำให้วันนี้ให้คลายออก หลินจื๋อซีหยิบมาน้ำมาให้แล้วนั่งลงด้านข้างของป๋ายปิงเวย เขาเปิดฝาขวดยาออกแล้วใช้สำลีชุบยาเล็กน้อยแล้วยกมือขึ้นช่วยเช็ดให้กับป๋ายปิงเวย ป๋ายปิงเวยหลบหลีกอย่างแยบยลแล้วพูดขึ้นว่า: “คุณชายหลิน ให้ฉันทำเองเถอะ” “ฉันบอกเธอแล้วไม่ใช่หรอว่าให้เรียกฉันว่าจื๋อซี” หลินจื๋อซีไม่สนใจว่าป๋ายปิงเวยจะพอใจหรือไม่พอใจ ก็ยังคงถือสำลีไว้ในมือ ป๋ายปิงเวยเองก็ขี้เกียจเกินกว่าจะที่หลบซ่อนอีก หลินจื๋อซีค่อยๆทายาสม่ำเสมออย่างระมัดระวัง บนแก้มของป๋ายปิงเวย การแสดงออกอย่างจริงจังบนใบหน้าของเขานั้น ราวกับว่าเขานั้นต้องการเพ่งมองทุกรูขุมขนของป๋ายปิงเวยก็ไม่ปาน ระยะห่างของทั้งสองคนนั้นใกล้กันมาก ป๋ายปิงเวยได้กลิ่นน้ำหอมจากตัวเขาอย่างชัดเจน รู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆของผู้ชายคนนี้ ป๋ายปิงเวยมองไปที่ใบหน้าอันหล่อเหลาของหลินจื๋อซีที่สะท้อนอยู่ในกระจกตรงโต๊ะเครื่องแป้ง ที่แสดงออกด้วยสีหน้าที่จริงจังในขณะที่กำลังทายาให้เธอ เขาระมัดระวังทุกการเคลื่อนไหว ช่างเป็นสุภาพบุรุษที่สง่างามอย่างแท้จริง ดูได้จากการกระทำของเขาที่มีเสน่ห์มากจนสามารถกระตุ้นอารมณ์ของเธอได้ หลังจากทายาเสร็จหลินจื๋อซีก็เก็บขวดยาอย่างเรียบร้อย “โอเคแล้วหละ” ป๋ายปิงเวยพยักหน้าเบาๆ: “ขอบคุณ” ทั้งสองคนพากันอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า และให้เกียรติซึ่งกันและกัน หลังจากที่ทั้งสองคนนอนลงบนเตียงขนาดใหญ่สไตล์ยุโรป ฟังเสียงลมหายใจของกันและกัน และหลับไปโดยไม่มีแม้แต่คำพูดใดตลอดทั้งคืน…… เช้าตรู่วันใหม่ หลังจากทานอาหารเช้าร่วมกันกับปู่หลินและแม่หลินเสร็จ ป๋ายปิงเวยก็เดินตามหลังหลินจื๋อซีออกไปนอกประตู “จื๋อซี ฉันอยากจะออกไปข้างนอกซะหน่อย” หลินจื๋อซีหยุดก้าวเท้าแล้วมองไปยังป๋ายปิงเวย “หืม เช้าขนาดนี้จะออกไปไหนหละ” ป๋ายปิงเวยยิ้มกว้างเผยให้เห็นฟันครบทั้งแปดซี่แล้วพูดขึ้นว่า: “ฉันอยากจะไปโรงพยาบาลไปเยี่ยมคุณแม่เสียหน่อยหนะ” “ไปขึ้นรถเถอะ” หลินจื๋อซีผยักหน้าเป็นการให้สัญญากับเธอ หลังจากป๋ายปิงเวยขึ้นไปนั่งในรถอย่างมีความสุขเธอก็พูดขึ้นว่า: “ขอบใจนะ จื๋อซี” เป็นเพราะว่าตื่นเต้นดีใจมากเกินไปจนทำให้น้ำเสียงที่พูดก็ดูกระตือรือร้นขึ้นมากเช่นกัน หาได้ยากที่จะได้ยินป๋ายปิงเวยเรียกชื่อตนเองอย่างร่าเริงเช่นนี้ จิตใจของหลินจื๋อซีก็มีความสุขขึ้นมาด้วย เขายิ้มขึ้นมาเล็กน้อย… ป๋ายปิงเวยไปถึงที่ประตูใหญ่ของโรงพยาบาล เธอไม่ได้เจอแม่ของเธอมานานมากแล้ว อยากจะซื้อดอกกล้วยไม้ฝรั่งเศสสักหนึ่งช่อให้กับคุณแม่ เมื่อก่อนคุณแม่ชอบกล้วยไม้ฝรั่งเศสมาก ป๋ายปิงเวยเดินไปยังร้านขายดอกไม้ตามตรอกใกล้ๆกับโรงพยาบาล เธอถามร้านค้ามากมายแต่ก็ไม่มีที่ไหนขายดอกกล้วยไม้ฝรั่งเศสเลยแม้แต่ร้านเดียว กว่าจะซื้อดอกกล้วยไม้ฝรั่งเศสสีม่วงมาได้เธอถึงขนาดต้องเดินไปจนสุดตรอกทางเดินนั้นเลยทีเดียว เธอเดินกลับไปด้วยอารมณ์ดีใจอย่างล้นพ้น ทันใดนั้นเธอก็ถูกมือใหญ่ที่มีพลังมากปิดปากของเธอไว้แล้วฉุดกระชากลากเธอเข้าไปในรถตู้ที่จอดอยู่ด้านข้าง ภายในรถมีผู้ชายร่างกายกำยำอยู่สองสามคนในนั้น รอยสักบนแขนของพวกเขาบอกได้เลยว่าต้องไม่ใช่คนดีแน่ๆ ป๋ายปิงเวยพยายามดิ้นให้หลุดพ้นจากสองมือใหญ่ของคนเหล่านี้เพื่อที่จะได้หลบหนีไป แต่ทว่ายิ่งออกแรงมากเพียงไรสุดท้ายก็ยังหนีไม่พ้นอยู่ดี ป๋ายปิงเวยอ้าปากของเธอและกัดมือใหญ่ของชายร่างกายกำยำคนนั้นที่กำลังจับเธอไว้ หลังจากนั้นชายร่างใหญ่ที่มีรอยสักก็ปล่อยป๋ายปิงเวยอย่างรวดเร็วในทันทีด้วยความรู้สึกเจ็บปวด ป๋ายปิงเวยพยายามเปิดประตูรถออกไป แต่ทว่าพวกผู้ชายที่อยู่ในรถก็กลับหัวเราะเธอขึ้นมา: “สาวน้อย อย่าดิ้นรนไปเลย” ชายที่เต็มไปด้วยหนวดเคารพูดขึ้นว่า: อาต้าขับรถไปที่เดิม” ชายผมทองอีกคนหนึ่งก็จับป๋ายปิงเวยเอาไว้: “วันนี้พี่น้องของเราน่าจะทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายได้นะ…” ในเวลาไม่นานอาต้าก็ขับรถมาจนถึงหน้าโรงงานร้างแห่งหนึ่ง ชายผมทองลากป๋ายปิงเวยให้ลงมาจากรถ ชายร่างใหญ่คนอื่น ๆก็ถือถุงดำสองสามใบจากหลังรถติดมาด้วย กลางโรงงานร้างมีโซฟาตั้งอยู่หนึ่งตัว เห็นได้ชัดว่าพึ่งจะมีคนเข้ามาขยับมันมาไว้ที่นี่ ชายผมทองโยนป๋ายปิงเวยขึ้นไปไว้บนโซฟา: “พี่ต้า ไม่ได้เจอผู้หญิงที่ดูดีขนาดนี้มานานแล้วนะ” อาต้าที่พึ่งจะขับรถคนนั้นหัวเราะขึ้นมาดังๆ : “นายจะรีบร้อนไปไหนหละ รอก่อนสิ เดี๋ยวนายได้เพลิดเพลินอย่างเต็มที่แน่” ชายร่างกายใหญ่โตคนอื่น ๆก็กำลังจัดการอยู่กับอุปกรณ์ถ่ายภาพและการเพิ่มแสงแฟรช ป๋ายปิงเวยถลึงตาใส่ชายผมทองคนนั้น: “พวกนายจับฉันมาทำไม” ชายผมทองเอนกายลงแล้วสัมผัสกับผมยาวสลวยของป๋ายปิงเวย “อีกประเดี๋ยวเมื่อเธอผ่อนคลายจนร้องออกมา เธอก็จะรู้เองนั้นแหละ” เมื่อได้ยินชายผมทองพูดเช่นนั้น หัวใจของป๋ายปิงเวยก็ร่วงตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม อาต้าและชายร่างใหญ่คนอื่นๆก็ตั้งกล้องแล้วจัดฉากขึ้น หลังจากนั้นอีกคนหนึ่งก็ถอดเสื้อออก เผยให้เห็นร่างกายที่กำยำ รอยสักสีดำบนร่างกายของเขาทำให้ป๋ายปิงเวยตกตะลึงหลังจากที่เธอสังเกตเห็นมัน ถ้าหากวันนี้ตัวเองต้องถูกอันธพาลพวกนี้กระทำชำเราก็อาจตายได้ด้วยเช่นกัน ชายผมทองลุกขึ้นแล้วหันหน้าไปพูดกับอาต้า “พี่ต้าขึ้นก่อนเลย พี่เสร็จกิจแล้วพี่น้องคนอื่นๆค่อยตามไป” อาต้าโยนกล้องให้กับชายผมทอง: “จำไว้ว่าอย่าลืมถ่ายรูปท่าทางยั่วสวาทของสาวน้อยคนนี้ตอนที่ฉันกำลังเล่นสนุกอยู่กับเธอ ซานแกไปถ่ายวิดีโอ” ชายร่างใหญ่ที่ยืนอยู่เบื้องหลังของอาต้าได้กดปุ่มเริ่มบันทึกที่กล้องวิดีโอ เขาพยักหน้าให้กับอาต้าเพื่อบอกว่าพร้อมแล้ว อาต้ามองไปยังป๋ายปิงเวยที่อยู่บนโซฟา เขาสัมผัสกับหน้าท้องของเธอ เผยให้เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วพูดขึ้นว่า: “แม่สาวน้อย เธอหนีไปไหนไม่พ้นหรอก มาเล่นอะไรสนุกๆกับพวกพี่เถอะ” ป๋ายปิงเวยกอดตัวเองด้วยร่างกายสั่นเทา “แก…แกอย่าเข้ามานะ แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร แกถึงได้กล้าแตะต้องฉัน…” ชายร่างใหญ่หลายคนต่างพากันหัวเราะขึ้นมาอย่างเสียงดัง อาต้าคว้าข้อมือของป๋ายปิงเวยขึ้นมา: “เราไม่สนใจหรอกว่าเธอจะเป็นใคร พวกเราพี่น้องจะทำทุกวิถีทางให้เธอสบายก็แล้วกัน ไม่ว่าจะบนล่างซ้ายขวา ปล่อยให้กลิ่นกายของพวกเราพี่น้องติดไปทั่วเรือนร่างของเธอเถอะ ฉันจะทำให้เธอไปถึงจุดสุดยอดจนไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใครเลยเป็นไงหละ” อาต้าเริ่มฉีกเสื้อผ้าของป๋ายปิงเวยออก แต่ก็ไม่ลืมกำชับซานที่อยู่เบื้องหลังของเขา: “พี่ซาน อย่าลืมกดถ่ายวิดีโอให้ดีๆหละ” ป๋ายปิงเวยดิ้นรถต่อต้านการกระทำของอาต้าอย่างไม่หยุด เธอพยายามกัดเข้าไปที่ข้อมือของอาต้าและกัดไม่ปล่อยอยู่อย่างนั้นจนอาต้าทนไม่ได้เขาตบหน้าป๋ายปิงเวยด้วยหลังมือของเขาอยู่สองสามครั้งอย่างต่อเนื่องไม่หยุด อาต้าฟาดมือลงไปอย่างแรง บนใบหน้าของป๋ายปิงเวยปรากฏรอยแดงจากฝ่ามือแทบจะเต็มใบหน้าและมีเลือดสีแดงเข้มไหลออกมาจากมุมปากของเธอ ป๋ายปิงเวยวิเคราะห์ถึงสถานการณ์ที่เธอเจออยู่ในตอนนี้ ไม่มีใครรู้ว่าเธอถูกจับตัวมา ถึงแม้ตัวเองจะร้องเรียกตะโกนจนคอแตกยังไงก็ไม่มีประโยชน์ เธอมองดูอาซานที่ถือกล้องวีดีโอ ชายผมทองและใบหน้าที่ดุดันของอาต้าพร้อมกับพวกอันตพาลที่อยู่ด้านหลังเขาอีกสองสามคน ยังไงตัวเองก็คงหนีไม่พ้นสินะ เธอป๋ายปิงเวยต้องไม่โดนใครเหยียดหยามโดยการกระทำอย่างไม่ยุติธรรมเช่นนี้และต้องไม่โดนปล่อยวิดีโอภาพที่สกปกเช่นนี้ออกไปด้วย ถ้าหากคุณแม่รู้เรื่องเข้าหละก็คงต้องโกรธแค้นมาก และหากคุณพ่อที่เสียชีวิตไปแล้วรู้เรื่องเข้าก็คงนอนไม่หลับเช่นกัน ป๋ายปิงเวยมองดูเสาคอนกรีตที่อยู่ด้านหลังของชายผมทอง เธอพินิจพิจารณา ก็ในเมื่อจะหนีไปไหนก็ไม่พ้น อย่างน้อยก็ยังสามารถเลือกที่จะตายได้ ป๋ายปิงเวยใช้แรงเฮือกสุดท้ายผลักอาต้าออกจากตัวอย่างแรง เธอวิ่งไปที่เสาที่ทำจากคอนกรีตเสริมให้หนาขึ้นด้วยความเร็วและพุ่งเข้าปะทะกับมัน ……
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 20 ผู้ชายคนนี้ต้องเป็นของฉันเท่านั้น
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A