ตอนที่ 628 ภรรยาผมอ่อนแอที่สุด   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 628 ภรรยาผมอ่อนแอที่สุด
ตอนที่ 628 ภรรยาผมอ่อนแอที่สุด งานแต่งดำเนินไปอย่างราบเรียบมาก แม้ว่าพิธีการทั้งหมดนัชชาจะเหนื่อยจนทนไม่ไหว แต่ในใจก็มีความยินดีและมีความสุขมาก เธออยู่ข้างกายเตชิต ตามเขาไปฉลอง ได้รับคำยินดีจากทุกคนที่จริงใจ ก็ยิ่งมีความสุขเหลือล้น งานเลี้ยงในตอนกลางวันจนถึงตอนบ่ายสองโมงสุดท้าย นัชชาเห็นสมุดบัญชีของขวัญเงินสดจดอยู่เต็มหน้า คนที่มางานล้วนแล้วเป็นผู้ดี ตามฐานะของพวกเขาคนธรรมดาไม่สามารถจินตนาการได้ เธอกวาดสายตามองก็รู้สึกตกใจสะดุ้ง เตชิตดื่มแอลกอฮอล์ไปไม่น้อย วันนี้ทุกคนไม่ได้ถูกควบคุม ปกติทุกคนจะรู้ว่าทนายเตชิตคนนี้จะมีความยับยั้งช่างใจ ไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยงสังสรรค์หรือสถานที่ใดๆ ก็ไม่ได้ดื่มหนักเสมอ แต่วันนี้มีโอกาสน้อยครั้งที่ไม่สามารถพลาดได้ คนจำนวไม่น้อยตั้งใจมาชนแก้วกับเขา โดยไม่ได้มีความคิดร้ายกาจเลย เพียงแต่รู้สึกมีชีวิชีวาล้วนๆเท่านั้น เตชิตก็ยากที่จะปฏิเสธ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ชนแก้วด้วยอย่างยินดี จึงเกิดความร้อนรอบตัว ร่างกายเขาค่อนข้างโซเซ การเดินที่มั่นคงกลายเป็นค่อยๆหนักขึ้นมา นัชชาเป็นห่วงว่าเขาดื่มจนไม่ไหว ถือโอกาสอยู่ด้านหลังเขาตอนเขาไปเข้าห้องน้ำ หลังจากรอเขาออกมาก็ไปเผชิญหน้าทันที “คุณเป็นอะไรไหม?” เตชิตมองมือเล็กที่ประคองเขาอยู่ ใบหน้าหล่อยิ้มแวบหนึ่ง ลมหายใจอุ่นร้อน “เป็นห่วงสามีดื่มหนักไปหรอครับ?” ไม่ใช่นัชชาไม่ได้ยินคำที่เขาเรียก ‘สามีภรรยา’ แต่พอวันนี้ได้ยินอีกครั้งก็รู้สึกไม่เหมือนเดิม มีความรู้สึกที่มีเกียรติมาก เธอประคองร่างกายสูงใหญ่ของเขาด้วยใบหน้าที่แดง “ก็ใช่น่ะสิ ดูคุณดื่มไปไม่น้อยเลย ตอนนี้ยังโอเคไหม? ปวดท้องหรือเปล่า?” เมื่อครู่ก็มีคนมาฉลองกับเธอ แต่เธอก็เลี่ยงออกมาโดยไม่ได้อธิบายอะไร ตอนนี้เห็นท่าทางโซเซของเขา นัชชาก็รู้สึกสงสาร เขาโบกมือมืออย่างไม่สนใจ “ไม่เป็นอะไร วันนี้ผมมีความสุข ดื่มมากหน่อยก็มีความสุข” ความสุขของเขาไม่บอกก็รู้ เธอก็มองออกเหมือนกัน ทุกอย่างมันเขียนอยู่บนหน้าเขาชัดเจน “ฉันยังดื่มได้อีกหน่อย คุณไม่ต้องมาห้ามฉันนะ” “ไม่ได้” เขาขมวดคิ้ว พูดออกมาอย่างไม่คิด “ภรรยาผมห้ามดื่ม ดื่มกับผมได้คนเดียว” “……” ประโยคเดียว พูดจนทำให้นัชชาเขินและแอบดีใจ การที่เขาปกป้องเธอแบบนี้ ทำให้เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเจ้าหญิงจริงๆ นัชชาเม้มปากแอบยิ้ม “ฉันไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น” ใครจะไปรู้ว่าเขาได้ยินแล้วจะส่ายหน้า “ไม่ได้ งั้นเดี๋ยวผมจะทำให้คุณอ่อนแอที่สุดเลย” “อย่ามาทะเลาะนะ ฉันเป็นห่วงคุณดื่มมากแล้วจะไม่สบาย” นัชชากลั้นสีหน้ายิ้มไว้ แล้วมองไปที่เขาตรงๆ เตชิตชะงักฝีเท้า ยกมือขึ้นมาประคองแก้มนุ่มของเธอ “ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ สามีไม่เป็นอะไร แอลกอฮอล์พวกนี้ทำอะไรผมไม่ได้ เดี๋ยวคืนนี้ต้องเข้าห้องหอ......” นัชชาเบิกตากว้างพร้อมเขย่งเท้าขึ้นไปเอามือปิดปากคำพูดตรงไปตรงมาของเขา “คุณ คุณจะพูดทุกอย่างออกมาทำไม!?” เตชิตยกมือขึ้นกุมมือเล็กของเธอไว้แน่น “ที่นี่มีแค่เรา ไม่มีใครได้ยินหรอ” “คุณรู้ได้ไงว่าไม่มีใครได้ยิน! ถ้าเกิดว่า......” “ก็ได้ ผมไม่พูด” เห็นเธอเบิกตากลมโต เตชิตก็รู้สึกอบอุ่นในใจ ความรู้สึกพอใจในงานแต่งยิ่งถูกกระตุ้นโดยแอลกอลฮอล์ เขามีความรู้สึกมากมายพองโตในอก แต่เขาไม่รู้จะพูดออกมาอย่างไร จึงไม่พูดออกมา จำความรู้สึกนี้ไว้ในใจ ทั้งชีวิตนี้เตชิตได้มาเจอเธอ เทียบกับกับความสำเร็จในหน้าที่การงานมามากทำให้เขาตื่นเต้น เธอรู้สึกขอบคุณที่เขายอมให้เธออยู่เคียงข้างโดยไม่ลังเล เขาจะไม่เขาจะไม่ทำอย่างนั้นได้อย่างไรล่ะ? ถ้าไม่ใช่นัชชา ทั้งชีวิตนี้เขาคงไม่มีครอบครัวเป็นของตัวเอง ไม่ต้องพูดถึงงานแต่งแบบนี้เลย พูดถึงงานแต่งงาน เตชิตยิ่งรู้สึกผิดในใจอย่างอดไม่ได้ “น้อยใจคุณแล้ว” นัชชาไม่คิดว่าจู่ๆเขาจะพูดแบบนี้ อึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะเข้าใจความหมายของเขา จึงเดาะลิ้นออกมา “คุณเป็นอะไรไป ฉันบอกแล้วไงว่างานแต่งมันดีจริงๆ ฉันไม่อยากได้คำขอโทษจากคุณ นี่คืองานแต่งงานที่ดีที่สุดที่ฉันจินตนาการไว้ทั้งหมด” เธอพูดคำว่าดีที่สุดสามครั้งติดกัน ไม่เพียงแต่จะลดความขาดดุลในใจเขา แต่ยิ่งกลับทำให้เขารู้สึกแย่ สาวน้อยของเขาดีขนาดนี้ แม้ว่ามันจะเป็นการตัดสินใจที่พลันด่วน เธอก็เลยหวานอมขมกลืน เขารู้ดีว่าต้องเองให้เธอได้ดีกว่านี้ แต่ก็ไม่มีทางเลือก เพราะว่าคุณปู่ เพราะเวลา เหตุผลต่างๆ จึงทำได้เพียงเท่านี้ เธอชอบแค่เหตุผลที่ว่ารักเขา เพราะว่ารักเขาจึงสามารถมองข้ามทุกอย่างที่ไม่ดีได้ เธอสามารถไม่ใส่ใจได้ แต่ว่าเขาไม่ได้ เขาต้องจำวันนี้ ต่อไปนี้ต้องให้เธอมากกว่านี้ ทั้งสองยืนเข้าหากัน ทั้งคู่ต่างมองกัน ในตอนนี้ จู่ๆด้านหลังมีร่างเล็กออกมาจากหน้าบันได นัชชาอึ้งไปสักพัก เดินมาข้างๆ หันไปมองก็พบว่าเป็นเด็กหญิงเยาว์วัยคนหนึ่ง ห้องโถงจัดงานเลี้ยงและห้องส่วนตัวชั้นนี้เตชิตได้เหมาไว้หมดแล้ว เด็กหญิงที่แต่งตัวสบายๆดูแล้วไม่เหมือนมางานแต่ง นัชชาถามอย่างอดไม่ได้ “ที่นี่เป็นงานแต่งงาน หนูเดินมาผิดที่หรือเปล่า?” ดราณีมองผู้หญิงที่พูดด้วย. เธอสวมกี่เพ้าสีแดงสด ข้างกายมีเด็กชายคนหนึ่งสวมชุดเป็นทางการ ทั้งสองดูแล้วอยู่ในบรรยากาศที่ไม่ธรรมดา โดยเฉพาะใบหน้าที่ดูตะลึง ทำให้ไม่กล้าจ้องตานาน ดราณีโต้กลับอย่างกังวล “หนู หนูมาหาคนที่งานแต่งงาน” “มาหาคนที่งานแต่งหรอ?” นัชชาค่อนข้างสับสน “หนูมาหาใครคะ เดี๋ยวพาไปนะ” “จริงหรอคะ?” ดราณีทำเหมือนเจอกับความหวังสุดท้ายโดยทันที พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าเธอหมุนตัวหาไปหลายรอบแล้ว ก็ยังหาห้องโถงหลัก นัชชาขำกับท่าทางตกตะลึงของเธอ “จริงสิ บอกมาได้เลย” นัชชากับเตชิตคิดว่าสาวน้อยคนนี้คงเป็นลูกสาวของเถ้าแก่ของครอบครัวไหนสักครอบครัว ไม่คิดว่าสาวน้นอยเอ่ยออกมาแล้วเกือบทำให้ทั้งคู่ตะลึงไปลย “หนูมาหาชนัยค่ะ” นัชชา “……” เตชิต “……” สีหน้าท่าทางของทั้งคู่แข็งทื่อไป วินาทีต่อมาก็มองหน้ากัน สุดท้ายเป็นเตชิตที่สติกลับมา ขมวดคิ้วแล้วถามกลับ “มาหาชนัยหรอ?” ดราณีพยักหน้าอย่างแน่วแน่มาก “ใช่ค่ะ มาหาชนัย” พูดจบ แต่กลัวว่าจะสื่อสารผิดพลาด จึงรีบเสริมไป “ชนัยคนที่เป็นเจ้าของมูตี้คลับเฮาส์น่ะค่ะ” นัชชามองเธออย่างอึ้งๆ ท่าทางสาวน้อยคนนี้น่าจะสิบแปดสิบเก้าปี สวมเสื้อชีฟองสีขาวกับกางเกงยีนส์สีฟ้าอ่อน สูงประมาณร้อยหกสิบกว่าเซนติเมตร แต่หุ่นไม่เลวเลย ขาเล็กเหมือนตะเกียบ ตัวผอมบาง ผิวขาวมาก ใบหน้ารูปไข่ ให้ความรู้สึกของหญิงสาวที่มีคอลลาเจนเปล่งปลั่งออกมา สาวน้อยเยาว์วัยคนนี้ ยากมากที่จะติดต่อกับชนัย นัชชาไม่ค่อยเข้าใจ แต่ความเป็นพี่เป็นน้องอย่างเตชิตทำให้ค่อยๆเข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ครั้งแรกที่เขาเอ่ยพูดออกไปก่อนอย่างสุภาพ “คนที่หาอยู่ในห้องโถงจัดงานเลี้ยง เดี๋ยวพวกเราพาไป”
已经是最新一章了
加载中