ตอนที่ 632 ดินเนอร์ใต้แสงเทียน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 632 ดินเนอร์ใต้แสงเทียน
ตอนที่ 632 ดินเนอร์ใต้แสงเทียน อีกด้านหนึ่ง หลังจากนัชชากับเตชิตไปส่งแขกทั้งหมดแล้ว สุดท้ายก็เหลือเวลาพักผ่อนนิดหน่อย และเตชิตที่ดื่มฉลองกับทุกคนจนเมาแล้วอย่างเห็นได้ชัด ดีที่ได้จองห้องชุดไว้ที่โรงแรม แค่ขึ้นลิฟต์ไปก็ได้นอนพักในห้องทันที ณัชชนม์พาธีมนต์กลับไปที่บ้าน เด็กน้อยยังไงก็ยังเด็กอยู่ ให้อยู่ทรมาณข้างนอกไม่ได้ตลอดเวลา ผู้จัดการโรงแรมให้คีย์การ์ดห้องกับเธอด้วยตัวเอง มันคือชั้นบนสุดของโรงแรม หลังจากนัชชารูดบัตรขึ้นลิฟต์ไปแล้ว ผู้ชายที่ประคองอยู่ข้างกาย มีพนักงานคอยช่วยเหลือ เธอจะได้ไม่ต้องออกแรงมาก ขึ้นไปถึงหน้าประตูห้องไม่ง่ายนัก หลังจากรูดบัตรเข้าห้องป เธอก็สะดุ้งโหยง เปิดประตูเข้าไปก็เห็นวิวทั้งหมดที่บานหน้าต่างในห้องนั่งเล่น บนโต๊ะมีกุหลาบสีแดงที่น่ารักน่าหลงใหลวางอยู่ พอดูแล้วก็รู้ว่ามันถูกตกแต่งไว้ล่วงหน้า นัชชาชะงักฝีเท้า พนักงานมองอย่างเป็นห่วงในทันที “คุณนัชชา เป็นอะไรครับ?” “ไม่มีอะ” เธอจึงเปลี่ยนสีหน้า ช่วยอีกฝ่ายแบกเตชิตไปไว้บนเตียง เธอหยิบเงินให้กับพนักงาน “ลำบากนายแล้ว” อีกฝ่ายรีบปฏิเสธ “เป็นสิ่งที่ผมควรทำครับ ผมรับไว้ไม่ได้......” “มันไม่ใช่ทิป วันนี้ในงานแต่งมีความสุข ทุกคนต่างมีส่วนร่วม รับไว้เถอะค่ะ” นัชชาจึงยัดเงินใส่มือเขาทันที ชายหนุ่มวัยยี่สิบปี หน้าแดงขึ้นมา จึงรับมาอย่างเขินๆ คิดว่าเป็นสินน้ำใจเล็กๆน้อยๆ เมื่อเขาเดินออกไปแล้วจึงพบว่า ด้านในยังมีบัตรกดเงินสดหนึ่งใบ จำนวนเงินไม่น้อยเลย คนรวยบนโลกใบนี้ ไม่คิดถึงความปลอดภัยเลย! นัชชามองผู้ชายที่นอนอยู่บนเตียง นึกถึงคำพูดกล้าหาญที่ว่าจะเข้าห้องหอ จึงส่ายหน้าออกไปอย่างช่วยไม่ได้ เดินเข้าไปในห้องน้ำแล้วบิดน้ำอุ่นมาเช็ดตัวเขาหน่อย โน้มตัวลงไปถอดเสื้อเชิ้ตบนกายเขา แล้วถอดรองเท้าเขาออก แล้วดึงผ้าห่มข้างๆมาห่มให้เขา เสร็จเรียบร้อยทั้งหมดแล้ว ร่างกายจึงเกิดเหงื่อผุดเล็กน้อย มองใบหน้าที่หลับลึกอยู่ระหว่างหมอน บางทีวันนี้คงมีความสุขมากจริงๆ ระหว่างคิ้วเขานั้นคลายออกหมด เขาไม่ใช่คนที่แสดงอารมณ์ออกมาข้างนอก ปกติจะเห็นเขาทำหน้าอึมครึม ได้เห็นเขามีความสุข นัชชาก็ยิ่งมีความสุข เมื่อครู่ที่เขาดื่มไปไม่น้อยอย่างต่อเนื่อง เดาว่าพอตื่นมาแล้วต้องไม่สบายตัวแน่ๆ คิดแบบนี้แล้ว เธอก็นวดหน้าผากให้เขา อยากนวดให้เขาผ่อนคลายลงหน่อย คิดไม่ถึงว่าพอปลายนิ้วแตะโดนเขาก็ยกมือขึ้นมาคว้าไว้แน่น การกระทำฉับพลันทำให้นัชชาสะดุ้งโหยง จึงถือโอกาสมองก็พบว่าเขายังไม่ตื่น ยังหลับอยู่ เธอออกแรงเล็กน้อยเพื่อดึงมือกลับ จู่ๆก็ได้ยินเสียงพึมพำของเขา “ภรรยาครับ......” คำเรียกหนึ่งคำ เรียกทีทำให้การกระทำของเธอชะงักและไม่ได้โต้ตอบอะไร โดยเฉพาะเสสียงที่แหบพร่าของเขาหลังจากดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้คนฟังจั๊กจี้หู ทั้งๆที่หลับสนิทแต่กลับพูดออกมาแบบนี้ นัชชาก็อบอุ่นใจขึ้นมา ไม่กล้าถอยกลับ กลัวว่าเขาจะตื่น เธอค่อยๆเคลื่อนตัวไปนอนข้างผู้ชาย มือขวาถูกเขาจับไว้แน่น เธอเอียงตัวไปแนบข้างเตียงอย่างระมัดระวัง สายตาก็จ้องมองใบหน้าหล่อนี้ ไม่พูดไม่ได้ ใบหน้าเตชิตนั้นเป็นเอกลักษณ์มาก สัดส่วนเครื่องหน้านั้นสมบูรณ์แบบมากเหลือเกิน แต่ความหล่อแบบนี้ไม่เหมือนกับพระเอกในเวทีหรือไอดอลหนุ่ม เป็นใบหน้าคมที่ต้องใช้เวลาค้นหา แต่ตอนนี้หลับอยู่ จึงไม่ได้มีพิษมีภัย นัชชานึกถึงท่าทางที่เย็นชาในตอนปกติของเขา ดูไปดูมาก็อยากจะขำอย่างอดไม่ได้ ที่จริงใจเขาอ่อนโยนมาก แต่เพราะได้มีประสบการณ์ตั้งแต่อายุยังน้อยจนถึงตอนนี้ เกิดอุปสรรคและความยากลำบากมากมาย เขาเคยชินกับความอดทนและแสดงออกถึงความเข้มแข็งออกมาให้มากที่สุด ความอ่อนโยน ความอ่อนแอพวกนั้นเขาล้วนเก็บไว้ในก้นบึ้งของหัวใจ ตอนที่นัชชาเพิ่งรู้จักเขา รู้สึกว่าผู้ชายคนี้ทั้งไม่มีเหตุผลและนิสัยไม่ดี ใจร้ายถึงขีดสุด ทุกครั้งที่เห็นใบหน้าเขาความคิดแรกไม่ใช่ความหน้าตาดี ไม่ใช่ความเพลิดเพลิน แต่เป็นความรังเกียจในใจ ในตอนนั้นเธอก็คิดไม่ถึง ว่าจะมีวันที่ตัวเองแต่งงานกับเตชิต ถึงขั้นมีลูกด้วยกัน ต่อมา ยิ่งได้ติดต่อกัน ความเข้าใจผิดก็น้อยลง แทนที่ด้วยหัวใจสองดวงที่เริ่มใกล้ชิดกัน เธอก็ค่อยๆค้นพบความดีงามของเขา ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็รู้สึกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คงเป็นชะตาฟ้าลิขิตจริงๆล่ะมั้ง ถึงได้เดินทางมาตรงนี้จากสถานการณ์ที่เป็นไปไม่ได้ นัชชาดีใจมาก แม้ว่าทางเดินจะขรุขระ แต่ในที่สุดพวกเขาก็ไม่ได้หลงทาง ความรู้สึกนั้นลอยไปไกล ยุ่งไปหนึ่งวัน ร่างกายก็ค่อนข้างเหนื่อยล้า ผ่านไปได้สักพัก เธอก็ทนความง่วงไม่ไหวจึงหลับไป ทั้งสองหลับได้อย่างเงียบสงบ ท้องฟ้าสดใสนอกหน้าต่างกลายเป็นท้องฟ้าค่ำคืน แต่มือที่จับกันไว้แน่นนั้นก็ไม่ได้คลายออกตั้งแต่ต้นจนจบ เวลาสองทุ่ม เตชิตตื่นขึ้นมาก่อน ดวงตาที่ปิดสนิทค่อยๆลืมขึ้น ลืมตาขึ้นมาก็เห็นผู้หญิงตัวเล็กที่นอนหลับปุ๋ยอยู่ข้างกายเขา เขาอึ้งไปสักพัก เห็นมือเล็กที่แน่นิ่งในฝ่ามือของเขา เขาปล่อยมือออกแล้วนั่งขึ้นมา ผ่านไปหลายวินาทีถึงจะเริ่มมีสติ ยื่นมือไปดึงผ้าห่มข้างกายไปห่มบนร่างเธอ เห็นรองเท้าสลิปเปอร์และรองเท้าหนังที่ถูกจัดวางไว้เรียบร้อยที่ปลายเตียง เหมือนมีขนนกแวบเข้าในใจ เหนื่อยจนสลบไปเลยมั้ง? วันนี้ตื่นมาเช้าขนาดนี้ แถมยังยุ่งอยู่ตลอดเวลา ต้องเหนื่อยจนสลบไปแน่นอน แล้วกลับมาที่โรงแรมยังต้องมาดูแลเขาที่ดื่มหนักอีก เตชิตจ้องใบหน้าขาวเนียนสักพักก่อนจะลุกจากเตียง ออกไปที่ห้องนั่งเล่นข้างนอก โทรศัพท์ไปหารูมเซอร์วิสต์ของทางโรงแรม “อาหารเย็นที่ผมสั่งครึ่งชั่วโมงค่อยยกมาให้ผมนะครับ แล้วก็มีแชมเปญด้วย” หลังจากสั่งง่ายๆ เขาก็วางโทรศัพท์ลง ลุกขึ้นไปอาบน้ำในห้องน้ำ บนกายเหม็นกลิ่นแอลกอฮอล์ ตัวเขาเองก็เกลียดความสกปรกด้วย ต้องอาบน้ำถึงจะดี นอกจากนั้นคืนนี้เขายังมีแผนการอื่นอีก จะต้องให้มันสมบูรณ์แบบ เขาอาบน้ำเร็วมาก ถูสบู่หนึ่งรอบแล้วก็ล้างออกมา เตชิตเช็ดผมให้แห้ง กำลังจะเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าสะอาดๆ ไฟที่ประตูห้องก็แดงขึ้นมา เขากลัวว่าจะรบกวนนัชชา เพื่อเลี่ยงการรบกวน แต่ก็ยังมีไฟเตือนอยู่ เดินไปเปิดประตูออก พนักงานเข็นรถส่งอาหารคันเล็กอยู่นอกประตู มีมีดกับส้อมสีทองเงินอันงดงามวางอยู่ด้านบน ด้านล่างมีกล่องดอกกุหลาบขาววางอยู่ กลิ่นสดชื่นอ่อนๆเข้ามาในโพรงจมูก ทำให้หายง่วงนอนไปได้หน่อย “ท่านเตชิต อาหารวางไว้บนโต๊ะใช่ไหมครับ?” พนักงานเอ่ยถามอย่างมีมารยาท เขาเอียงตัวหลบให้พนักงานเข้ามา มองพวกเขาค่อยๆยกอาหารมาวางบนโต๊ะทรงกลมที่คลุมด้วยผ้าสีขาวด้านหน้าของหน้าต่าง เทียนสีขาว เชิงเทียนสีทอง ตรงกลางมีดอกไม้ที่งดงามวางอยู่ ราวกับเป็นสถานที่แต่งงานอันงดงามเล็กๆอีกที่หนึ่ง
已经是最新一章了
加载中