ตอนที่ 27 เรื่องที่ต้องปกปิด
1/
ตอนที่ 27 เรื่องที่ต้องปกปิด
รักเต็มใจ:ยัยน่ารักของฉัน
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 27 เรื่องที่ต้องปกปิด
ตนที่ 27 เรื่องที่ต้องปกปิด ไป๋ชิงเฉินกับไป๋มู่หย่าแทบจะพลิกเมืองหลงวาน เพื่อตามหาหานหย่าเหวิน แต่หาเท่าไหร่พวกเขาก็หาเธอไม่พบ “พี่คะ เป็นยังไงบ้าง หาหานเหวินเจอไหม?” ไป๋มู่หย่าถามขึ้นอย่างเป็นกังวล “ไม่เจอ” ไป๋ชิงเฉินตอบ ตอนที่ไป๋มู่หย่ากำลังจะกดโทรหาอีกครั้ง โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาพอดี เธอมองดูเบอร์ที่โทรเข้ามา จึงกดรับสายอย่างไม่ลังเล “หานหย่าเหวิน เธออยู่ที่ไหน เธอรู้ไหมว่าฉันกับพี่ชายกำลังตามหาเธออยู่?” ไป๋มู่หย่าตะโกนใส่โทรศัพท์ [ฉันขอโทษ มู่หย่าฉันโทษจริงๆ ฉันลืมไปว่าฉันปิดเครื่องไว้] หานหย่าเหวินตอบกลับปลายสาย หลังจากที่หานหย่าเหวินเปิดเครื่อง โทรศัพท์ก็แสดงรายชื่อผู้ที่ติดต่อหาเธอ เมื่อรู้ว่าเป็นไป๋มู่หย่า หานหย่าเหวินจึงรีบโทรกลับทันที เมื่อดูหมายเลขที่ไม่ได้รับบนจอโทรศัพท์มือถือ ก็มีเพียงแค่ไป๋มู่หย่าและไป๋ชิงเฉินเท่านั้น หรืออาจจะมีแค่สองคนนี้ที่เป็นห่วงเป็นใยเธอจริงๆ “ตอนนี้เธอเป็นอย่างไรบ้าง อยู่ที่ไหน” ไป๋มู่หย่าถามขึ้นมาอีกครั้ง หานหย่าเหวินคิดไม่ตก ไม่รู้ว่าจะพูดเรื่องนี้กับไป๋มู่หย่าอย่างไรดี [ฉันอยู่ข้างนอก ฉันไม่อยากกลับบ้าน] หานหย่าเหวินไม่อยากคุยกับไป๋มู่หย่าในตอนนี้ “ไม่เป็นไรใช่ไหม” เธอถามอย่างเป็นห่วง [ไม่เป็นไร ตอนนี้ฉันดีขึ้นมากแล้ว เธอกับพี่ชิงเฉินไม่ต้องเป็นห่วง] หานหย่าเหวินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด อันที่จริงไป๋ชิงเฉินก็ตรวจสอบเรื่องนี้ไปแล้ว แต่ข่าวทั้งหมดกลับถูกเย่หยู่เฉินปิดปังเอาไว้ มันจึงทำให้เขาไม่ได้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในงานแต่งงานเลย “ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน ฉันไปหาได้ไหม” ไป๋มู่หย่าถามปลายสายอีกครั้ง [เอ่อ... คือ... ไม่ต้องหรอก ตอนนี้... ตอนนี้ฉันอยากอยู่เงียบๆ คนเดียว] เธอตอบ ถ้าหานหย่าเหวินบอกไปว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน เรื่องทั้งหมดก็จะถูกเปิดเผย “หย่าเหวิน เธอไม่ได้มีอะไรปิดบังฉันใช่ไหม” ไป๋มู่หย่าถามเสียงแข็ง [ไม่มีอะไรอยู่แล้ว เธอเป็นเพื่อนสนิทของฉันนะ ฉันจะกล้ามีความลับกับเธอได้ยังไง] “ก็ได้ ฉันจะเชื่อเธอ ถ้ามีเรื่องอะไรก็บอกฉันได้นะ แล้วก็ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็รีบกลับบ้าน อย่าให้ฉันกับพี่ชายต้องเป็นห่วง” ไป๋มู่หย่าพูด [โอเค] หลังที่ทั้งสองวางสายไป ไป๋มู่หย่าก็หันกลับไปหาไป๋ชิงเฉิน แล้วเอ่ยขึ้นว่า “ตอนนี้หย่าเหวินไม่ได้เป็นอะไรแล้ว แค่โทรศัพท์ดับไปเท่านั้น ตอนนี้เธออยู่ข้างนอก อีกไม่นานก็คงกลับบ้าน” “แกคิดว่าหย่าเหวินพูดเรื่องจริงเหรอ” ไป๋ชิงเฉินถามเสียงเข้ม “แล้วพี่จะให้ฉันทำยังไง ในเมื่อเธอยังไม่อยากพูด ฉันก็ไม่อยากบังคับ” “แกกลับไปก่อนเลยนะ” จู่ๆ ไป๋ชิงเฉินก็พูดขึ้นมา “แล้วพี่ไม่กลับเหรอ” ไป๋มู่หย่าใช้นิ้วมือนวดคลึงปมคิ้วที่ดูเหนื่อยล้าให้พี่ชายเบาๆ “เอางั้นก็ได้” ไป๋มู่หย่าตอบตกลง ไป๋ชิงเฉินรอจนกว่าไป๋มู่หย่าจากออกไป เขาจึงเข้าไปนั่งในรถ วันนี้เขาขับรถตามหาหานหย่าเหวินทั้งวัน ไปขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดของทางโรงแรม แต่ข้อมูลทั้งหมดที่กล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้กลับถูกลบทิ้ง และก็สืบหาข้อมูลของผู้ชายที่พาหานหย่าเหวินออกไปไม่พบ เรื่องนี้ทำให้ไป๋ชิงเฉินปวดหัวอย่างหนัก กริ๊งกริ๊งกริ๊ง กริ๊งกริ๊งกริ๊ง “ฮัลโหล” เขากดรับสาย “นายครับ เรื่องที่คุณให้ตรวจสอบไม่พบอะไรเลย” ปลายสายพูดขึ้นมา “ไม่ได้เรื่อง” ไป๋ชิงเฉินพูดใส่โทรศัพท์มือถืออย่างหัวเสีย “พวกเราบ่งพร่องในหน้าที่เอง ขอโทษครับ” เสียงของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นมา “ช่างมันเถอะ ไม่พบก็ไม่พบ พวกคุณกลับกันได้แล้ว” ไป๋เฉินเอ่ยออกมาอย่างเรียบๆ “ครับ” ผู้ใต้บังคับบัญชาตอบรับอย่างนอบน้อม เมื่อวางสายโทรศัพท์ เขาก็ขับรถออกไป ในหัวมีเรื่องของเย่หยู่เฉินคนที่พาตัวหานหย่าเหวินไป เต็มไปหมด แต่เมื่อสืบหาดูแล้วกลับไม่พบอะไรเลย ไม่รู้อีกฝ่ายเป็นใครมาจากไหน เรื่องนี้ยากเกินจะรับมือได้เสียแล้ว อีกด้าน ปัง! ปัง! เพล้ง! “ออกไป! ออกไปให้พ้น” เสียงโหวกเหวกโวยวายดังออกมาจากห้อง “เวยเวยลูกแม่ หนูอย่าโวยวายไปสิลูก หนูกำลังท้องกำลังไส้อยู่นะ” เหอหย่าห้วยพูดปลอบขึ้น “คุณแม่คะ ทำไม ทำไมโชคต้องเข้าข้างหานหน่าเหวิน นังคนชั้นต่ำแบบนั้นด้วยคะ” หลันเวยเวยสถบคำหยาบคายออกมา “โอเคๆ ใจเย็นก่อน แม้ว่าหานหย่าเหวินจะมีคนมาช่วยไป แต่ลูกก็เห็นไม่ใช่เหรอ ใส่หน้ากากปิดบังใบหน้าขนาดนั้น ไม่แน่ใบหน้าจริงๆ อาจจะอัปลักษณ์น่าเกลียดน่ากลัวก็ได้นะลูก” เหอหย่าห้วยเอ่ยขึ้นมา “ถ้าไม่ใช่แบบนั้นละคะ” หลันเวยเวยถามขึ้น “เวยเวย ลูกลองคิดดูนะ ถ้าไม่ได้เป็นอย่างที่แม่พูด แล้วจะใส่หน้ากากปิดบังไว้ทำไมกัน” ได้ยินเช่นนั้นหลันเวยเวยก็เริ่มใจเย็นขึ้นมาหน่อย “หึ หานหย่าเหวิน แม้ว่าแกจะมีช่วยมาช่วย แต่ถ้าครั้งหน้ามีโอกาสอีกล่ะก็ ฉันไม่ปล่อยแกไว้แน่” หลันเวยเวยพูดด้วยน้ำเสียงเคียดแค้น “ไม่ปล่อยใครไว้?” จู่ๆ เสียงของใครบางคนก็ดังขึ้น “เอ่อ...” หลันเวยเวยและเหออย่าห้วยตกใจจนสะดุ้ง “โย้...ซิง... คุณ คุณเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ” หลันเวยเวยไม่ทันตั้ง พลางถามออกไปด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก “เอ่อ... คือ...” เหอหย่าห้วยก็เช่นกัน ได้แต่ยิ้มออกมาแห้งๆ “คุณพ่อกับคุณแม่ให้ผมขึ้นมาดูคุณ” เหยียนโย้ซิงตอบ “ฝากขอบคุณพ่อกับคุณแม่ด้วยนะคะ” หลันเวยเวยพูดขึ้น และยิ้มให้เหยียนโย้ซิงอย่างฝืนๆ “เมื่อกี้คุณบอกว่า จะไม่ปล่อยใครไว้?” เขาถามขึ้นอย่างอยากรู้อยากเห็น “อ่อ... ก็... ก็คนที่บริษัทน่ะค่ะ ถ้าจะฉันพูดถึงเขา มันก็คงทำให้เขาดูไม่ดี” เธอตอบเขาด้วยท่าทีสำนึกผิด “ใช่จ้ะ” เหอหย่าห้วยเออออไปด้วย “คุณแม่กลับไปพักผ่อนก่อนเถอะครับ ตรงนี้เดี๋ยวผมดูแลต่อเอง” เหยียนโย้ซิงพูด “มัน... มันดีเหรอ” เหอหย่าห้วย “ไม่เป็นไรหรอกครับ ยังไงซะเวยเวยก็เป็นภรรยาของผม แม้ว่างานแต่งของเราจะล่มไป แต่เราสองคนก็เป็นสามีภรรยากันแล้ว” เหยียนโย้ซิงตอบ “ก็ได้ๆ ถ้าอย่างงั้นพวกเธอสองคนก็คุยกันไปก่อนเลยนะ” “เดินระวังๆ ด้วยนะคะแม่” หลันเวยเวยเอ่ยขึ้นมา ในขณะที่เหอหย่าห้วยกำลังเดินออกไป เธอหันกลับมาพยักหน้าให้ลูกสาว และเดินออกจากห้องไป เหยียนโย้ซิงเดินเข้าไปหาหลันเวยเวย เขานั่งที่เก้าอี้ข้างๆ เตียงนอน ก่อนจะเปิดซุปไก่ในมือและยื่นให้เธอ “ดื่มสักหน่อย” “ค่ะ” หลันเวยเวยพยักหน้า “เรื่องที่เกิดในงานแต่ง คุณก็ไม่ต้องไปโทษน้องสาวของคุณหรอกนะ” ได้ยินแบบนั้น ช้อนที่ถืออยู่ในมือของหลันเวยเวยก็พลันชะงัก “เรื่องก่อนหน้านี้ฉันไม่สนใจหรอกนะคะ แต่สำหรับเรื่องนี้หานหย่าเหวินทำเกินไป ตอนนี้ฉันก็คิดเหมือนกันคนอื่นๆ ว่าอยากจะสืบหาผู้ชายหน้าตาน่าเกลียดคนที่อยู่เบื้องหลังคนนั้น” สีหน้าของเหยียนโย้ซิงดูเศร้าหมองลงอย่างเห็นได้ชัด “ทำไมคุณถึงพูดถึงน้องสาวคุณแบบนั้น หย่าเหวินจะไปคลุกคลีกับคนแบบนั้นได้ยังไง” เหยียนโย้ซิงพูดเรียบๆ ได้ยินแบบนั้นหลันเวยเวยก็วางซุปไก่ในมือลง เธอจ้องมองเหยียนโย้ซิงเขม็ง และพูดขึ้นว่า “โย้ซิง ไม่ว่าคุณจะลืมหานหย่าเหวินแล้วหรือไม่ก็ตาม แต่ตอนนี้ฉันกำลังตั้งท้องลูกของคุณ” เหยียนโย้ซิงขมวดคิ้วมองไปที่หลันเวยเวย “เวยเวย คุณคิดมากเกินไปแล้ว” เขาพูดขึ้นมาเรียบๆ ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เหยียนโย้ซิงต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจอย่างมาก
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 27 เรื่องที่ต้องปกปิด
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A