ตอนที่ 83 แพ้ให้กับแผนการ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 83 แพ้ให้กับแผนการ
ตอนที่ 83 แพ้ให้กับแผนการ “  “จรีภรณ์” เทพวีเรียกด้วยเสียงที่ตกใจ ทันทีที่กำลังลงจากรถเพื่อที่ไปอุ้มจรีภรณ์แต่กลับถูกอีกคนหนึ่งแย่งอุ้มออกมาเสียก่อน  “เร็ว ไปโรงพยาบาล ” หลังจากที่ชนุตต์รีบอุ้มจรีภรณ์ขึ้นรถ เขาก็หันไปบอกกับเมษาทันที เมษาก็ไม่กล้าทำอะไรอย่างเชื่องช้าเพราะรู้ว่าจรีภรณ์คือคนที่ชนุตต์นั้นรักมาก เขาจึงเหยียบคันเร่งและตรงไปที่โรงพยาบาล บนถนนไม่ว่าจะติดไฟแดงเยอะขนาดไหน มีชนุตต์คอยสั่ง เขาไม่กลัวอะไรทั้งนั้น ตราบใดที่อุบัติเหตุยังไม่เกิดก็ดีไป แต่โชคดีที่วันนี้อากาศร้อนมากและก็ยังไม่ถึงเวลาของคนทำงานหรือเลิกงาน บนถนนจึงไม่ค่อยมีรถ  หลังจากที่ชนุตต์เลิกรากับจรีภรณ์ไป ในใจของเขาก็เศร้าและหดหู่อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะทำอะไรก็รู้สึกไม่มีสีสัน ไม่สนุก เมษาเห็นสายตาก็รู้แล้วว่าต้องรีบทำอะไร เขาไม่เคยเห็นชนุตต์ใส่ใจใครเท่านี้มาก่อนเลย ก่อนหน้านี้ก็แค่เล่นๆ แต่ครั้งนี้ความรู้สึกของเขามันชัดเจนมากที่เห็นว่าเจ้านายของเขาเปลี่ยนไป  เขาตกหลุมรักจรีภรณ์เข้าแล้วจริงๆ แต่เขารู้ดีว่าตัวเองเป็นคนที่พ่อของชนุตต์ส่งมา มาที่นี่อย่างแรกก็เพื่อช่วยเหลือชนุตต์ อย่างที่สองคือเพื่อจับตามองชนุตต์ ไม่ว่าชนุตต์จะกระทำอะไรก็ตาม เขาต้องรายงานกับพ่อของชนุตต์ เขาเป็นคนที่ถูกเลือกโดยพ่อของชนุตต์ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถทำอะไรผิดต่อชนุตต์ได้ ในช่วงระยะเวลาที่ได้อยู่กับท่านชายน้อย ท่านชายน้อยถึงแม้ว่าจะมีนิสัยที่ไม่ดี แต่เขาก็ปฏิบัติต่อเมษาได้ดีมาก จริงๆแล้วเขาเป็นคนที่ดีมากคนหนึ่ง แต่สำหรับครอบครัวตระกูลธนะปรีดากุลเป็นเรื่องยากมากที่จะพูดแบบนั้น ต้องรู้ว่ามีคนรับใช้เกือบร้อยคนในตระกูลธนะปรีดากุลและความสัมพันธ์นั้นซับซ้อนแต่มีทายาทตระกูลใหญ่เพียงคนเดียวเท่านั้น และท่านชายน้อยเองก็อาศัยอยู่ในตระกูลที่มีการห้ำหั่นกันด้วยกลอุบายตั้งแต่เด็ก แต่เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้เขาไม่เคยมีส่วนร่วมในเรื่องของบริษัทและเขาก็ไม่เคยมีส่วนร่วมในการต่อสู้ของครอบครัว เขาเหมือนกับคนที่ไม่มีอะไรทำ ทุกๆวันก็คอยหาแต่ความสนุกความบันเทิงใส่ตัว จริงๆแล้วมันเป็นความจริงเช่นกันที่เขาเกลียดการต่อสู้และเกลียดชังเหล่านี้และเกลียดผู้ที่เต็มไปด้วยอารมณ์และการต่อสู้ต่อหน้าทุกวัน  ดังนั้นในทุกๆวันเขาจึงไม่ได้สนใจทุกอย่างในบ้าน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีปัญหามากมายเกิดขึ้นกับเขา แต่ในท้ายที่สุดแล้วเขาก็ได้รับการแก้ไขปัญหา อย่ามองรอยยิ้มอันกะล่อนของท่านชายน้อยเชียว จริงๆแล้วเขารู้ว่าท่านนายน้อยไม่ใช่แบบนี้ ไม่ว่าจะคนไหนที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีประโยชน์ต่อเขาก็จะถูกซ่อนไว้ แต่แน่นอนว่านายน้อยผู้นี้ของเขาไม่ได้เป็นคนที่ชอบกดขี่  แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเขาจะถูกจับตามองโดยพ่อของเขา การทดสอบนี้ถูกทำแบบเงียบๆเป็นความลับ ในความเป็นจริงความลับนี้เป็นที่รู้กันทั่วไป แน่นอนว่าสิ่งต่างๆจะไม่ราบรื่น ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากมายเหล่านี้ ในท้ายที่สุดพวกเขาก็แก้ไขให้สงบลงชั่วคราวภายใต้การปราบปรามของท่านชายใหญ่หรือพ่อของชนุตต์ แต่มันก็เป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น ตอนที่เขาเอาเรื่องความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งระหว่างชายน้อยกับจรีภรณ์ไปบอกท่านชายใหญ่ ท่านชายใหญ่จึงสั่งเขาว่า ถ้าหากไม่ทำให้จรีภรณ์หายไปหรือ  แต่พอหลังจากเลิกกันแล้ว ในทุกๆวันเขาเห็นท่านชายน้อยหดหู่อย่างมาก ใจของเขานั้นทุกข์ทรมานมาก เขารู้ว่าที่ท่านชายน้อยเป็นแบบนี้เป็นเพราะจรีภรณ์ เขารู้สึกเสียใจกับตัวเองที่เขาต้องบอกกับท่านชายใหญ่ในหลายๆเรื่อง แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เลิกกันเพราะเขา แต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้เขารู้สึกผิด ในบางครั้ง เขาก็เคยถามกับตัวเองว่า ถ้ามีวันหนึ่งกับท่านชายใหญ่เกิดขัดใจกันขึ้นมากับท่านชายน้อย เขาจะยืนอยู่ฝั่งไหน ตัวเลือกนี้เป็นตัวเลือกที่ยาก เขาคือคนที่ยืนข้างๆท่านชายใหญ่มาตลอดตลอด แต่ในใจของเขาก็มีท่านชายน้อยอยู่เช่นเดียวกัน เขาไม่รู้เลย ไม่รู้เลยจริง หวังเพียงว่าวันนั้นจะไม่เกิดขึ้น เมษาส่ายหัวไปมาพร้อมกับสะบัดความคิดอันซับซ้อนของตัวเอง และขับรถต่อไป     ชนุตต์มองจรีภรณ์ที่อยู่ในอ้อมกอด ดวงตาอันเจ็บปวดของเขาก็เริ่มแดง  วันนี้ตอนเช้า เขารู้สึกกระวนกระวายใจอย่างบอกไม่ถูกหลังจากนั้นเขาก็สั่งให้เมษาเอารถออกให้พาเขาไปดูรอบเมืองซูเพื่อผ่อนคลาย หลังจากที่เขาเลิกกับจรีภรณ์ เขาก็ตัดใจจากเธอไม่ได้เลย ในสมองก็มีภาพจำที่เป็นเธอ เขาอยากไปหาเธอมาก แต่จะพูดยังไง พูดว่าเขาถูกจัดฉากและวางแผนแบบนี้หรอ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็นอกใจอยู่ดี และก็ยังอยู่กับนิรมลบนเตียงอีกด้วย นี่คือข้อเท็จจริงที่ลบออกไม่ได้ ในใจของเขาเองก็รู้สึกทนไม่ได้ที่จะต้องไปซ้ำเติมเธอ เขารู้ว่าจรีภรณ์เกลียดคนที่นอกใจมาก ไม่อย่างนั้นเธอไม่ยอมพูดถึงอดีตสามีเธอหรอก แต่เขารักจรีภรณ์จริงๆ เขาอยากจะให้จรีภรณ์มีความสุขและอยากจะแสดงความเป็นครอบครัวกับตะวัน อีกทั้งยังอยากจะเลี้ยงดูตะวันเอาตะวันมาเป็นลูกอีกด้วย แต่ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ล้วนมีการเปลี่ยนแปลง ตอนที่เขาคิดเพียงว่าจรีภรณ์สัญญากับเขาว่าจะอยู่กับเขา เขาคิดเพียงว่าพวกเขารักกันจริงๆ เขาสามารถละทิ้งทุกอย่างได้แต่ไม่เคยคิดว่าพวกเขาจะมาแพ้ให้กับแผนการแบบนี้  ถ้าเขาไม่หลงกลนิรมล ตอนนี้พวกเขาก็คงอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขแล้วไม่ใช่หรอ แต่ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างมันคือฟองอากาศไปแล้วและบางทีมันก็อาจจะเป็นชีวิต สายตาของชนุตต์ได้จ้องมองจรีภรณ์อยู่ตลอดเวลา หน้าของเธอนั้นแดงก่ำ พอมองแล้วก็รู้สึกถึงอาการเป็นไข้แดด ดังนั้นเขาจึงรีบเร่งให้เมษาขับรถเร็วขึ้นอีก   ในขณะที่เดินทางไปโรงพยาบาล เทพวีก็เล่าเรื่องให้เขาฟังเป็นระยะๆ นอกจากความสัมพันธ์ระหว่างจรีภรณ์กับจิรภาสแล้ว ทุกๆอย่างก็ถูกเปิดเผยออกมา  หลังจากที่ชนุตต์ฟังก็รู้สึกโกรธมาก แน่นอนว่าจิรภาสคนนั้นเป็นคนที่ไม่ได้มีเจตนาดี จริงๆเขารู้สึกสนใจในจรีภรณ์จริงๆ ชนุตต์จึงรู้สึกว่าตัวเองคิดไม่ผิด ตอนนี้พวกเขาเลิกรากันไปแล้วและก็เป็นโอกาสที่ดีที่จิรภาสจะเข้าใกล้จรีภรณ์  พอคิดถึงตรงนี้ชนุตต์รู้สึกโกรธอย่างเดือดดาล จิรภาสคนนี้เป็นคนที่เลวทรามคนหนึ่ง เป็นเหมือนคนสกปรกโสมม คนเลว ชนุตต์อดไม่ได้ที่จะสบถออกมาบนรถ แล้วอยากจะถือมีดไปเฉือนเขา    ถ้าวันนี้เขาไม่เจอเทพวี เขาก็คงไม่รู้ว่าจรีภรณ์ลำบากขนาดไหน ไม่คิดว่าจะถูกไอคนเลวอย่างจิรภาสทำให้ลำบากขนาดนี้ โชคดีที่วันนี้เขาออกมาพบเทพวีพอดี ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่รู้เรื่องราวที่แท้จริง เพียงแค่คิดว่าจรีภรณ์วิ่งออกมาท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่ร้อนระอุขนาดนี้ ในใจของเขาก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาแล้ว ผู้คนนี้บ้าจริงๆ จะโทรมาหาเขาไม่ได้เลยหรือไง เธอไม่รู้หรอว่าเธอตกอยู่ในภาวะที่เสี่ยงมากๆ  แต่พอคิดอีกที พวกเขาก็เลิกกันไปแล้ว ตามลักษณะนิสัยของจรีภรณ์ เธอไม่โทรหาเขาแน่ๆ พอคิดถึงตรงนี้ก็เริ่มรู้สึกโทษตัวเองขึ้นมาทันที ถ้าไม่เป็นเพราะว่าเขาถูกจัดฉาก พวกเขาก็จะไม่แยกทางกันแบบนี้ จรีภรณ์ก็จะไม่ต้องมาตกระกำลำบากแบบนี้  เมื่อรอให้ถึงโรงพยาบาล ชนุตต์ก็โอบอุ้มจรีภรณ์และพาลงจากรถ เมษาก็ไปติดต่อกับแพทย์เรียบร้อยและให้แพทย์ตรวจอาการของจรีภรณ์ทันที เทพวีก็รีบวิ่งเข้าไปดูอาการของตะวันว่าเป็นอย่างไรบ้าง และชนุตต์ก็เฝ้าจรีภรณ์อยู่ข้างๆไม่ห่าง  เทพวีเธอเองก็รู้สึกวางใจ โชคดีที่ชนุตต์เป็นคนฉลาดและมีไหวพริบที่ดี เมื่อเขารู้ว่าตะวันอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ เขาก็ส่งตัวจรีภรณ์มาที่นี่ทันที ทั้งสองแม่ลูกอยู่ที่โรงพยาบาลเดียวกันจะได้ไม่ต้องแยกกัน      ในช่วงเวลาใกล้ค่ำจรีภรณ์ก็รู้สึกตัว อาการของเขาเป็นอาการของคนเป็นลมแดด อาการก็ไม่ได้หนักหนาอะไร แค่สูญเสียน้ำนิดหน่อย มีอาการเพียงนิดหน่อยหลังจากนั้น แต่ก็ไม่ได้ร้ายแรงอะไร แค่พักผ่อนหลังจากนี้ไม่กี่วันก็หายดีแล้ว แต่อาการของตะวันยังไม่ดีขึ้นขนาดนั้น  หลังจากที่เข้าโรงพยาบาลมา ไข้ก็ขึ้นสูงตลอด จนถึงตอนนี้ไข้ก็ยังไม่ลดลงเลย หลังจากที่จรีภรณ์รู้ เธอก็รีบดึงสายน้ำเกลือออกและรีบวิ่งไปที่ห้องของตะวันทันที “ ตะวัน ลูกรักของแม่ ลูกเป็นอย่างไรบ้าง ” จรีภรณ์มองหน้าแดงๆของตะวันและน้ำตาก็หลั่งไหลออกมาพร้อมกับความเจ็บปวด “แม่” ตะวันลืมตาขึ้น เห็นปากของจรีภรณ์กำลังพึมพำด้วยความคับอกคับใจพร้อมกับร้องไห้ออกมา  “ผมถูกคุณลุงที่ไม่ดีคนหนึ่งอุ้มขึ้นรถไป หลังจากนั้นผมก็ไม่รู้อะไรแล้ว แม่ครับ ตะวันกลัวมากเลย” “โถ่ แม่อยู่ตรงนี้แล้วนะลูก ตะวันไม่ต้องกลัวนะลูก” จรีภรณ์ร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวดหัวใจ แน่นอนว่านวิยาต้องไปหาคนมาอุ้มตะวันแน่ๆ จริงๆแล้ววันนี้เธอหลอกว่าเธอไม่รู้เรื่อง เธอแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง อีกอย่างเธออยู่ที่นี่เธอก็ไม่ได้เป็นศัตรูคู่แค้นกับคนอื่น นอกจากนวิยาแล้ว เรื่องนี้ก็ไม่สามารถเป็นใครอื่นได้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับตะวันลูกของเธอ เธอสาบานไว้แล้วว่าเธอจะทำลายตระกูลแก้วใส     หลังจากที่ตะวันพูดกับจรีภรณ์ไม่กี่ประโยค เขาก็หลับลงไปด้วยความง่วง จรีภรณ์ก็กระวนกระวายใจ อดไม่ได้ที่จะกุมมือลูกชายของตนแล้วร้องไห้ออกมา  ประจวบเหมาะกับชนุตต์กำลังเดินเข้ามา เขามองเห็นจรีภรณ์ที่กำลังเศร้าใจอยู่ ในใจของเขาก็รู้สึกทุกข์ทรมาน เขาได้ยื่นมือเข้าไปจับจรีภรณ์ไว้แล้วพูดว่า “ฉันสั่งให้คนไปหาแล้ว คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะ เรื่องนี้ฉันจะไม่ปล่อยให้พวกคุณได้รับความไม่เป็นธรรมหรอก” จรีภรณ์ไม่ได้พูดอะไร ชนุตต์ก็พูดต่ออีกว่า “จรีภรณ์ คนคนนี้โทรหาคุณ ไม่ใช่คุณพยาบาลที่โรงพยาบาลนี้ ดูเหมือนว่าเรื่องราวทั้งหมดนี้จะถูกวางแผนเอาไว้อย่างดิบดี แต่คุณแน่ใจจริงๆหรอว่าคือคุณนายนวิยา ”  “แน่นอนว่าต้องเป็นเธอ ไม่ใช่เธอแล้วจะเป็นใคร นางแม่มดใจร้าย ใจอำมหิตคนนี้แหละที่ตลอดเวลาอยากจะให้ฉันออกไปจากเมืองซู ฉันไม่ออก เธอก็มาเล่นงานฉันสองถึงสามครั้ง คุณชนุตต์ ฉันต้องการให้เธอเข้าคุก ” จรีภรณ์มองไปที่ชนุตต์พร้อมกับความหมดหวัง
已经是最新一章了
加载中