ตอนที่25 เด็กใหม่ที่มีฝีมือ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่25 เด็กใหม่ที่มีฝีมือ
ต๭นที่25 เด็กใหม่ที่มีฝีมือ ฉีเทียนโย่วยิ้ม เธอก็หน้าแดงเตะตาของเขา หูของเธอนี่มันช่างเล็กน่ารักจริงๆ ไม่ได้ใส่ต่างหูหรืออะไรใดๆด้วย แต่ก็ยังคงที่จะสะอาดน่ามอง และในตอนนี้ บนหูของเธอนี่แดงไปหมดแล้ว มันช่างน่ามองจริงๆ ฉีเทียนโย่วยิ่งมองก็ยิ่งหลงเธอไปแล้ว หลินหยู่นจูมีสายตาพิศวาสใจของเธอก็เต้นแรงไม่หยุดจนแทบจะเป็นบ้า เธอมองไปที่สายตาของเขาอย่างสงสัย ตาของหลินหยู่นจูนั่นมันสวยมาก ทวารทั้งห้าก็ยังสวยเลย ตอนนั้นเองเธอก็เริ่มขมวดคิ้ว และลุกลี้ลุกลน นี่ช่างสวยมาก มากจริงๆ ฉีเทียนโย่วรู้ตัวว่าตัวเองมองมากเกินไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงละสายตาลง และสงบลง “นั่งอีกสักพักนะ กำลังทายาเสร็จให้ดีอย่าพึ่งขยับ คำแนะนำของเขาทำให้เธอกังวล เธอก็ทำได้แต่ผงกหัวยอมรับ “คุณหลินเมื่อกี้นี้ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ” “อะไรนะคะ” ฉีเทียนโย่วพูด “ผมบอกว่า เมื่อกี้ผมเข้าใจผิดว่าคุณใส่ถุงน่องอยู่” ปากสีชมพูของหลินหยู่นจูค่อยๆเปิดออกแล้วพูดออกมาว่า “อาจเป็นเพราะความสัมพันธ์ของสภาพอากาศนอกประเทศล่ะมั้ง” จริงๆแล้วเธอก็แค่คืดเหตุผลไปเรื่อยออกมาแค่นั้น “อ้อ” ฉีเทียนโย่วผงกหัว “ ใช่สิเธอมีเหตุผลอะไรที่ต้องออกประเทศงั้นหรอ” ฉีเทียนโย่วถามอย่างสงสัยเพราะว่าเขารู้สึกคลุมเครือเหตุผลที่เธอต้องออกจากที่นี่ไป โดยส่วนมากแล้วเหมือนกับมันจะเกี่ยวข้องกับตนเองโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับเขา หรือว่ามันเป็นเพราะเรื่องความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นกันนะ เป็นอย่างที่คิดไว้ สายตาที่กระตือรือร้นของฉีเทียนโย่วมองไปที่รอยยิ้มของหลินหยู่นจูที่เปลี่ยนไปค่อยๆลุ่มลึกมากขึ้น ถ้าพูดถึงอารมณ์ของเธอก่อนหน้านี้มันค่อนข้างที่จะสบายๆแต่พอเขาถามคำถามนี้ออกไปสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปเป็นเย็นชา ไม่ว่ายังไงก็ตามความสงสัยของฉีเทียนโย่วมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ “ฉันก็แค่อยากจะออกไปดูต่างประเทศก็แค่นั้น” คำตอบตอนนี้กับเมื่อก่อนยังคงเป็นคำตอบแบบเดิม ดูเหมือนว่าใจของเธอต้องการที่จะปิดบังอะไรสักอย่าง “เด็กผู้หญิงคนนึงที่ใช้เวลาตอนหนุ่มสาวอยากจะออกไปท่องเที่ยวในโลกกว้างแต่ว่าคุณหลิน เมื่อห้าปีก่อนพึ่งจะอายุเท่าไหร่กันเชียว 18ปีใช่ไหมนะ เด็กสาววัย18ไปต่างประเทศคนเดียวแล้วที่บ้านเธอไม่ห้ามหรอ “……” คำถามของผู้ชายคนนี้ช่างคมกริบบาดใจเหลือเกินกระทั่งหลินหยู่นจูก็ไม่รู้จะตอบอย่างไร “หรือว่าเธอกับที่บ้านเธอไปต่างประเทศด้วยกัน เป็นใครกันนะที่ตามเธอไปด้วย พ่อ แม่หรือพี่น้องกันล่ะ” “ฉัน…ฉันไปคนเดียว” ฉีเทียนโย่วนัยต์ตาเบิกกว้าง จากการหลบสายตาของเธอ เขาสังเกตเห็นว่าคำพูดนี้ทำให้สายตาของเธอดูเศร้า นั่นมันยิ่งทำให้เขายิ่งสงสัยเข้าไปอีก “เธอ…เธอคนเดียวไปอยู่ที่นั่นหรอ ฉันนับถือความกล้าหาญของเธอจริงๆคุณหลิน” ฉีเทียนโย่วตอนนั้นก็รีบเก็บคำพูดทั้งหมดของเขาเพราะเขารู้ว่าถ้าเขาพยายามที่จะถามเข้าไปอีกตัวเองจะไม่ได้คำตอบอะไรเลย ก็เหมือนคุยกับเพื่อนปกติ เขาคิดไปคิดมาก็เอาปัญหาของตัวเองออกไป แต่สิ่งี่เขาไม่รู้ก็คือถ้าเป็นปัญหาเดียวกันมันก็จะยิ่งทำให้หลินหยู่นจูยิ่งเจ็บปวดใจมากขึ้น เธอลุกขึ้นมาไม่สนใจสีหน้าของฉีเทียนโย่วเลยแต่น้อย ลองทดสอบหัวเข่าของเธอจริงๆแล้วตอนนี้มันก็ไม่ได้เจ็บเหมือนก่อนหน้านี้ดังนั้นเธอเลยตัดสินใจยืนขึ้นแล้วลืมความยากลำบากและความเจ็บปวดนั้นไปสะ “ขอบคุณนะคะท่านประธาน ตอนนี้มันก็สายแล้วฉันต้องรีบไปทำงานแล้วล่ะค่ะ” พอเธอพูดจบเธอก็ไม่ได้สนใจคำตอบของเขาแล้วก็เดินออกไปจากห้องทำงาน พอเดินไปถึงที่ทำงานเธอก็เข้าไปอยู่ในนั้นอย่างเงียบๆ เธอมองออกว่าท่านประธานตระกูลฉีเป็นคนที่เยือกเย็นมาก แต่เขากลับเป็นคนที่มองด้านนอกแม้ว่าเหมือนจะเย็นชาแต่ด้านในของเขากลับอบอุ่น ใส่ใจดูแล ปกป้องคุ้มครอง เขาเป็นคนที่ใส่ใจกับลูกน้องตลอด ใช่สิ ต้องเป็นแบบนี้ อีกด้านนึงของเขา เธอแอบบอกกับตัวเอง ในเมื่อมันลืมไม่ได้ แต่เขาก็เป็นแค่คนตำแหน่งสูงกว่าก็แค่นั้น นั่นก็เป็นเพียงแค่ความรู้สึกที่เป็นห่วงลูกน้องก็แค่นั้นเหมือนกัน ดีๆ ถ้างั้นก็อย่ามีความคิดอย่างอื่นอีกล่ะ เช่นนั้นหลินหยู่นจูที่กำลังคิดเรื่อยเปื่อยก็กลับมาทำงานของตัวเองตรงด้านหน้าอีกครั้ง เจินมี่มี่อยู่ๆเธอก็มาจ๊ะเอ๋อยู่ตรงหน้าเธอจนทำเธอตกใจ “ โอ้ยแม่ อย่ามาเล่นแบบนี้นะ” หลินหยู่นจูตกใจแล้วเหลือบมอง “เห้ย”ๆเจินมี่มี่ไม่โกรธ แต่กลับนั่งลงแล้วหัวเราะออกมาและทำสายตาที่มีเล่ห์เหลี่ยมแล้วพูดออกมาว่า “โธ่ หยู่นจูเธอรู้ไหมเนี่ยว่าวันนี้บริษัทเรามีข่าวใหญ่แล้ว” หลินหยู่นจูเอามือตบไปที่โต๊ะ ความรู้สึกลึกๆของเธอรู้ว่าเรื่องนี้ยังไงก็เกี่ยวข้องกับเธอแน่ เป็นอย่างที่คิด ยิ่งฟังเจินมี่มี่พูดก็ยิ่งใช่ “เธอรู้ไหมว่าท่านประธานสุดเย็นชาของพวกเราเนี่ยอยู่ๆก็กอดหญิงสาวมาที่บริษัท โอ้มายก๊อด ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกัน ขาหักแล้วหรอทำไมถึงเดินเองไม่ได้ เหอะ” หลินหยู่นจูอึ้งไปสักพัก ยังมีคนสาปเเช่งอีกหรอ เธออยากจะอธิบายอะไรบางอย่างแต่เธอทำได้แค่อ้าปากจะพูดแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เด็กสาวนั่นแสดงออกถึงความไม่พอใจในการที่ไม่ยุติธรรม “เป็นเพราะฉันเองที่วันนี้ฉันสายไม่งั้นฉันก็ต้องไปดูสะแล้วว่าผู้หญิงที่ไหนกันทำแบบนั้น มาทำให้ผู้ชายของฉันเนี่ยแสดงแแกว่าหลงรักเธอแบบนั้น หลินหยู่นจูยังคงเงียบต่อไป เธอมองไปที่เจินมี่มี่หนึ่งรอบ หน้าของเด็กสาวนั่นทั้งโกรธ ทั้งเกลียด ทั้งน่ารัก มิน่าล่ะ…… “มี่มี่ เธอชอบท่านประธานงั้นหรอ” “แน่นอนล่ะ” ตอนแรกก็คิดว่าเธอจะเขินแต่ไหนได้เธอกลับยอมรับอย่างเต็มอก เธอเบะปากแล้วพูดว่า “คนที่ทำงานที่นี่ที่เป็นผู้หญิงทั้งหมด อย่าว่าแต่พวกป้าๆเลย ไม่มีใครไม่ชอบท่านประธานหรอก ท่านประธานของพวกเราเนี่ยหล่อที่สุด มีเสน่ห์ที่สุดในเมือง G แล้ว หลินหยู่นจูรู้สึกขนลุกซู่ขึ้นมา จริงๆแล้วผู้หญิงชอบผู้ชายที่น่ากลัวแบบนี้หรอเนี่ย “ฉันได้ยินมาว่าผู้หญิงคนนั้นคือคนที่พึ่งมาใหม่ ให้ตายสิ มีฝีมือขนาดนั้นเลยหรอ ท่านประธานเนี่ยโสดมาตั้งกี่ปีละ อยู่ๆก็ยอมจำนนให้กับเด็กใหม่นั่นเลยหรอ ให้ตายสิ” เจินมี่มี่พูดไปเรื่อยๆหลังจากนั้นก็ค่อยๆเงียบแล้วกลับไปที่นั่งของเธอ หลินหยู่นจูอายมากอยากจะเข้าไปปลอบเธอแต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไร เวลาตอนเช้านั่นผ่านไปเร็วมาก หลินหยู่นจูมองไปที่หน้าจอคอม งานที่ยุ่งตอนเช้าเนี่ยก็ทำเอาเหนื่อยแล้วนะ “หยู่นจู ไปกันเถอะ ไปกินข้าวที่โรงอาหารกัน” หลินหยู่นจูตอบตกลง ในอาคารฉีเวยมีที่กินข้าวเยอะแยะมากมายและก็มีโรงอาหารที่ให้พนักงานกินฟรี เอกสารพวกนี้หลินหยู่นจูเคยทำที่ต่างประเทศมาก่อนแล้ว 
已经是最新一章了
加载中