ตอนที่27 น้ำเสียงที่ทำร้าย   1/    
已经是第一章了
ตอนที่27 น้ำเสียงที่ทำร้าย
ต๭นที่27 น้ำเสียงที่ทำร้าย ผู้หญิงที่นั่งข้างๆก็ยิ้มขึ้นมา ใบหน้าของจางจี้แสดงออกมาว่าเขินอายมาก หลินหยู่นจูทำหน้าตาสงสัยมองไปทางเจินมี่มี่ คนที่อยู่ด้านหลังกลับเบ้ปากและไม่พูดอะไร หลังจากนั้นเธอก็หันไปคุยกับจางจี้ “มี่มี่เป็นเพื่อนสนิทของฉันเอง นิสัยของเธอก็เป็นแบบนี้แหละ หลังว่าเธอคงไม่ถืออะไรนะ” สาวสวยมาแก้หน้าให้จะไม่ให้หน้าได้อย่างไรกัน จางจี้หัวเราะแสดงออกว่าตัวเองไม่ได้ใส่ใจอะไร ฉีเทียนโย่วเห็นทั้งหมดนี่อย่างชัดเจน เพียงแต่ว่าเนื่องจากปัญหาของระยะทางเขาไม่สามารถรู้ได้ว่าพวกเขาพูดอะไรกัน แค่เห็นว่าผู้หญิงของเขาฉีเทียนโย่วอยู่กับคนอื่นเขาก็กระวนกระวายพูดอะไรออกมาบางอย่าง ใจของเขาร้อนรุ่ม ผู้หญิงคนนี้ช่างกล้านัก ตอนอยู่ต่อหน้าเขาไปหว่านเสน่ห์ให้กับผู้ชายอีกคน ฉันจะต้องสั่งสอนเธอสะแล้ว ฉีเทียนโย่วมองอยู่เงียบๆไปที่ผู้ชายหน้าตาธรรมดาๆคนนั้น ในใจยิ่งไม่สบายมากกว่าเดิม ผู้ชายคนนั้นออกจะธรรมดา อยู่ที่นี่ก็ไม่ได้เป็นที่รู้จักสะหน่อย สายตาของเธอเนี่ยแย่ขนาดนี้เลยหรอ หลินหยู่นจูมีข้าวน้อยเธอกินได้สักพักก็หมดแล้ว ตอนที่เธอกินเสร็จก็ตกใจที่เจินมี่มี่ก็กินเสร็จด้วยเหมือนกัน ข้าวเยอะขนาดนั้นเธอทำไมถึง……กินเสร็จแล้วล่ะ “หยุ่นจู ไปเถอะ” เจินมี่มี่ลุกขึ้นแล้วก็เรียกเธอ “อ่าโอเค” หลินหยู่นจูก็วางตะเกียบลงและลุกขึ้น “หยู่นจู เธออยู่แผนกไหนอ่ะ ผมอยู่แผนกบัญชีนะถ้ามีเวลาว่างก็มาหาผมได้นะผมเลี้ยงกาแฟคุณเอง” จางจี้รีบบอกตำแหน่งของตัวเองก่อนจากกัน ฉีเทียนอี้ก็เห็นหลินหยู่นจูกำลังลุกขึ้นจะออกไป จริงๆแล้วมื้อนี้เขากินไปแค่นิดหน่อยเท่านั้น อย่าว่ากินเลยแค่เห็นเธอทำแบบนั้นก็กินอะไรไม่ลงแล้ว หลินหยู่นจูรู้สึกได้ว่าฉีเทียนอี้ก็ออกมาเหมือนกัน เขาคงจะไม่ทำเหมือนตอนเช้าใช่ไหม ยากที่จะพูดการกระทำของเขาทำให้เขาอายแล้วใช่ไหม คิดถึงนี่เธอเลยดึงมือเจินมี่มี่รีบเดินออกไป “มี่มี่ ฉันเพิ่งนึกออกว่าฉันยังไม่ได้แปลเอกสารสำคัญอีกอันนึ่งรีบกลับไปเถอะ” ในตอนที่พูดอยู่นั้นไม่ทันได้ระวัง เสียงร้องตกใจ นี่ถ้าเจินมี่มี่ไม่เอามือประคองไว้มีหวังหยู่นจูได้ล้มลงแน่ๆ “หยู่นจูช้าหน่อยสิ” “…ขอโทษนะ ขาของฉันเจ็บนิดหน่อยน่ะ ตอนเช้าฉันหกล้มแล้วครั้งนึง” หลินหยู่นจูกำลังอธิบายแต่ว่าคำที่เธอพึ่งพูดออกไปทำให้รู้สึกเสียใจภายหลังที่พูดมันออกไป เป็นอย่างนั้นเอง เจินมี่มี่ได้ยินแล้วยิ่งสงสัยเลยถามเธอว่า “ขาเจ็บงั้นหรอหยู่นจู เธออย่าบอกนะว่าคนที่ท่านประธานอุ้มตอนเช้าเนี่ยเป็นเธอเองหรอ” หลินหยู่นจูไม่ได้ยอมรับ “ไปเรื่อยน่ะ จะเป็นฉันได้ยังไง ฉันน่ะเดินเข้ามาเองต่างหาก” “งั้นหรอ” เจินมี่มี่ร้องออกมาอย่างกังวล เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ทั้งสองเลยเดินช้าลงนิดนึง จนกระทั่งคนที่อยู่ข้างหลังตามมาติดๆ เจินมี่มี่ทำหน้าเขินๆ ตาที่สดใสของเธอนั้นเต็มไปด้วยความรัก “ท่านประธาน” เธอพูดด้วยเสียงเบาๆ ฉีดเทียนโย่วไม่ได้พูดอะไรได้แค่ผงกหัว หลังจากนั้นสายตาที่บ้าคลั่งของเขามองไปที่หลินหยู่นจู เขาตั้งใจใช่ไหม “ท่านประธาน” หลินหยู่นจูทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ทักทายเขา “รุนแรงมากไหม” ชายร่างสูงพุ่งเขามาหาด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วงทำให้คนฟังใจเต้นราวกับเคลิบเคลิ้มไปกับเสียงของเขา “หื้อ” แต่ว่าหลินหยู่นจูประคองสติได้ ไม่เข้าใจว่าทำไมฉีเทียนโย่วอยู่ๆถามขึ้นมาแบบนี้ “เมื่อกี้ล้มเจ็บตรงไหนหรือเปล่า” ฉีเทียนโย่วย้ำความหมายที่เขาถามออกไปอีกครั้ง ใจของหลินหยู่นจูเน้นขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อกี้เขาเห็นเข้าแล้วหรอ “อ้อ อันนั้นก็……ไม่เป็นไรค่ะ” “อ่า งั้นก็ดี” การสนทนาของทั้งสองกระชับชัดเจนแต่ไม่รู้ว่าลึกๆแล้วข้างในนั้นคืออะไร เช่นเจินมี่มี่ เธอสับสนมึนงงมองไปที่พวกเขาทั้งสอง คำที่พวกเขาพูดออกมาเนี่ยเหมือนกับว่ามีอะไรแฝงอยู่นะ แต่ว่าเธอฟังกลับไม่เข้าใจว่าจริงๆแล้วมันหมายถึงอะไรกัน หลินหยู่นจูกังวลมากๆ เธอกัดปากตาสองข้างเต็มไปด้วยความคาดหวังมองไปยังฉีเทียนโย่วแปปนึง หวังว่าเขาคงจะไม่พูดเรื่องนี้ออกมา ทุกคนคงจะเข้าใจผิดไปมากกว่านี้และถ้าทุกคนรู้เธอไม่อยากจะคิดเลยว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น “คุณหลิน” “คะ” “คุณไม่รู้สึกว่า……” ผู้ชายพูดได้เพียงครึ่งเดียวก็หยุด สายตาสองข้างนั้นเต็มไปด้วยการล้อเล่น หลินหยู่นจูมองไม่ออกว่าจริงๆแล้วเขากำลังตั้งใจหรือว่า…… ฉีเทียนโย่วไม่สามารถรู้สึกว่าอารมณ์ดีขึ้นมานิดนึง โดยเฉพาะตอนที่เห็นเธอทั้งตกใจทั้งอายมันทำให้รู้สึกว่าเธอเนี่ยน่ารักเกินไปแล้ว จริงๆแล้วการหยอกเธอเนี่ยมันเป็นเรื่องที่สนุกมาก “สีลิปสติกอันนี้มันไม่ค่อยเหมาะกับเธอนะ” คำพูดของเขาทำให้คนงง แล้วเขาก็เดินจากไป ในประโยคนี้จริงๆแล้วมันมีกี่ความหมายกันแน่นะ จริงๆแล้วมันเป็นการแสดงออกที่ไม่แยแสแต่ว่าก็ยังพูดเล่นออกมาได้ “หยุ่นจู เธอดูเหมือนกับว่าจะสนิทกับท่านประธานนะ” เจินมี่มี่ถามอย่างสงสัยตอนที่ท่านประธานเดินออกไปแล้ว “ที่ไหนกัน ฉันไม่เคยรู้จักเขามาก่อนเลยนะ อีกอย่างฉันก็พึ่งมาจากเมืองนอกด้วย” “……เป็นแบบนี้แน่ๆใช่ไหม” เจินมี่มี่มองไปที่หลินหยู่นจู “มี่มี่ เธอคงจะไม่สงสัยฉันใช่ไหม” หลินหยู่นจูอยู่เงียบๆ “ท่านประธานเนี่ยเป็นคนใหญ่คนโต มาใส่ใจกับลูกน้องเนี่ยเป็นเรื่องธรรมดานะ เขาบอกว่าสีปากของฉันเนี่ยไม่เข้ากับฉันอาจเป็นเพราะว่าฉันทำงานที่นี่แหละ เธอก็รู้นิว่าฉันทำงานแปลงั้นก็แปลว่าฉันสามารถที่จะไปรับแขกคนสำคัญ ท่านประธานคงจะเตือนฉันเรื่องการแต่งตัวเนี่ยแหละ” หลินหยู่นจูเป็นคนที่มีความฉลาดทางอารมณ์สูงอีกทั้งยังเป็นคนที่มีไอคิวสูงอีกด้วย ในคำไม่กี่คำก็สามารถทำให้เจินมี่มี่สงสัย ทั้งสองคนพากันเดินไปที่ห้องทำงาน “หยู่นจู ไปห้องน้ำไหม” “ไม่อ่ะมี่มี่ เธอไปเถอะ ฉันยังมีงานที่ต้องรีบแปลอีกหลายงานเลยล่ะ” หลินหยู่นจูจิบน้ำแล้วเริ่มที่จะทำงานในตอนบ่าย “อ่า โอเค” เจินมี่มี่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เพราะว่าเธอรู้ว่าตอนบ่ายนี้มีประชุมสำคัญจึงไม่ได้รบกวนอะไรเธอต่อ เจินมี่มี่รีบลากเก้าอี้ทำงานมาข้างๆหลินหยู่นจู เธอไม่ได้พูดเพียงแต่นั่งดูเงียบๆข้างๆเธอเพียงเท่านั้น
已经是最新一章了
加载中