ตอนที่29 วางมือก่อนเพื่อความเข้มแข็ง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่29 วางมือก่อนเพื่อความเข้มแข็ง
ต๭นที่29 วางมือก่อนเพื่อความเข้มแข็ง ฉีเย่วยังคงเย็นชา ริมฝีปากสีแดง หน้าแสดงออกถึงความพราวในตัวเอง สายตานั้นเมื่อมองไปที่หลอนหยู่นจูมันแสดงออกถึงการดูถูก ในใจของหยู่นจูก็รู้สึกถึงเหมือนกัน ว่าแต่เธออยู่ในบริษัทในฐานะอะไรกันแน่ แล้วเป็นน้องสาวของใครอีก เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับเธอ หลินหยู่นจูไม่ได้พูดอะไรเธอได้แต่ยิ้มออกมาแล้วหันไปผงกหัวให้กับฉีเย่วหลังจากนั้นก็หันหลังกลับแล้วเดินไปที่ห้องน้ำ เธอทำแบบนี้ ฉีเย่วไม่ได้รู้สึกแปลกใจหรือตกใจอะไรสักนิด แต่เเซ่ร์เพ้ยถิงกลับไม่ใช่ “เด็กสาวนี่ มันน่านัก เธอคิดว่าเธอเป็นอะไร ไม่ใช่ใช้วิธีสกปรกดึงดูดท่านประธานแค่นั้นเองหรอ แซ่ร์เพ้ยถิงโกรธจนสีหน้าเปลี่ยนไป ฉีเย่วเห็นคนมาเยอะ เจอหลินหยู่นจูทำแบบนี้ก็ไม่ได้รู้สึกว่าแปลกอะไร ถิงถิง ทำไมต้องโกรธขนาดนั้นด้วย ถ้าเธอยิ่งโกรธศัตรูก็ยิ่งมีความสุขนะ เพราะว่านี่คือสิ่งที่พวกเธอต้องการจะเห็น แซ่ร์เพ้ยถิงอยู่ที่นี่ก็มีตำแหน่งสูงส่ง ตอนไหนกันที่โดนคนเขาดูถูก เด็กใหม่หลินหยู่นจูก็แค่ท่านประธานยอมเธอแค่นั้นก็ไม่ต้องเอามันมาใส่ใจเลย ฉีดเย่วพูดเสร็จก็หันกลับไปแล้วเดินแทรกเข้าไปที่กำแพงกระจกแก้วและค่อยๆแต่งหน้าเติมปากของตนเอง “เธออย่าคิดว่าเธอจะมาขู่ฉันนะ ผู้ชายหรอ ตอนนี้รสชาติสดใหม่มันไม่มีแล้ว ผู้หญิงแต่งหน้าพบปะกับผู้คนมากมายให้คนสนใจนั้นก็เป็นแค่เรื่องปกติ เธอคงไม่คิดหรอก พวกเราตระกูลฉีอยู่ที่เมือง G นั้นเป็นคนผูกขาดทั้งหมด ผู้อาวุโสทั้งหมายอนุญาตผู้หญิงแบบนี้เข้ามางั้นหรอ” แซ่ร์เพ้ยถิงดูถูก ฉีเย่วก็พูดขึ้นมาแบบนี้เลยทำให้เธอรู้สึกแย่ขึ้นมา ฉีเย่วยังพูดออกมาอีกว่า “แน่นอนล่ะ เธอกับเธอนั้นไม่ได้เหมือนกัน เธอมีบุญต่อฉันอยู่ ตระกูลฉีกระจะต้องขอบคุณเธอ มันจะมาดูถูกเธอได้ยังไงล่ะ ใช่ไหม” พอพูดถึงตรงนี้ สีหน้าของแซ่ร์เพ้ยถิงก็ค่อยๆดีขึ้น “แต่ว่า ก็เป็นที่เธอทำไม่เต็มที่เหมือนกันนะ ฉันเคยเตือนเธอแล้วนิว่าให้จับตามองยัยหลินหยู่นจูนี่ เธอดูสิแค่นี้เธอยังพลาดเลยทำให้เธอมีโอกาสแล้วยังไงล่ะ” แซ่ร์เพ้ยถิงผงกหัว “ฉันพยายามที่จะจับตามองเธออย่างเต็มที่แล้ว แต่ว่าใครจะไปคิดว่าเธอจะเคลื่อนไหลเร็วขนาดนี้ ตอนเช้าฉันก็ตามไปที่ห้องทำงานของท่านประธานแต่ก็ถูกเขาไล่ออกมา” คำพูดนี้แสดงถึงน้ำเสียงที่ทนไม่ได้ ฉีเย่วมองไปที่ครั้ง จริงๆแล้วเธอก็พูดถูกนะเรื่องเมื่อเช้ารับมือไม่ทันจริงๆ ผู้หญิงคนนี้มาได้นานเท่าไหร่กันเชียว พี่ชายก็สนใจเธอแล้วงั้นหรอ ละถ้าไม่ยังยั้งผมสุดท้ายจะต้อง……… ผู้หญิงคนนี้หายไปนานมากแล้ว อยู่ๆก็โผล่ออกมา สงสัยจะต้องมีแผนการอะไรแน่ๆ ฉีเย่วยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกถึงอันตราย ปากสีแดงๆของฉีเย่วพูดออกมาครั้งหลังแล้วมองหน้าของแซ่ร์เพ้ยถิง ทั้งสองมองหน้ากันแล้วผงกหัว หลินหยู่นจูเลิกงานเช้าก็อยากจะไปเที่ยวเล่นกับเจ่อห้าวแต่ว่าเน่อห้าวกลับเปลี่ยนใจ อีซ่างซีเลยถามเขาถึงพอจะรู้เหตุผล จริงๆแล้วเจ่อห้าวเห็นว่าที่เท้าของหลินหยู่นจูมีแผล กลัวแม่จะเจ็บก็เลยไม่ไปแล้ว ไม่คิดว่า เด็กตัวเล็กแค่นี้จะเข้าใจคิดเรื่องพวกนี้ อีซ่างซีเลยคิดออกว่าญาติเด็กๆของเธอพอแค่เธอพูดว่าไปเที่ยวได้ทั้งหมดมันกระดี๊กระด๊าไม่สนใจใครจะเหนื่อยจะเจ็บเลยสักคน บนระเบียงวันที่ฟ้าเปิด เจ่อห้าวค่อยๆทายาให้กับแม่ เด็กน้อยหยิบก้านคอตตอนทายาให้กับหม่ามี๊อย่างระวัง แล้วก็ยังถามกับผู้ใหญ่ว่า “หม่ามี๊ เจ็บไหมครับ ถ้าเจ็บแม่ก็ร้องออกมานะจะได้หายเจ็บ” หลินหยู่นจูยิ้มอย่างมีความสุขแล้วก็ส่ายหัว ในใจรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก ทายาเสร็จแล้ว เจ่อห้าวก็พูดว่า “หม่ามี๊ หิวน้ำไหม เดี๋ยวเจ่อห้าวไปเทน้ำให้เอง” หลินหยู่นจูงอเข่าแล้วก็กอดเด็กน้อยขึ้นมาแล้วก็จุ๊บไปที่แก้มของเขาหนึ่งรอบ “เด็กดีของหม่ามี๊ หม่ามี๊ไม่หิวน้ำเลยนะ” ”คิคิ……หม่ามี๊ เจ่อห้าวรักหม่ามี๊นะ” มือน้อยๆของเจ่อห้าวเกาะอยู่ที่คอของเธอทำให้รู้สึกถึงกอดอันอบอุ่น “เจ่อห้าว หม่ามี๊ก็รักหนูนะ ร้ากรัก” สองแม่ลูกกอดกันเล่นทำเอาอีซ่างซีอิจฉาจะตายอยู่แล้ว หลินหยู่นจูเห็นว่าอารมณ์ของเธอยังไม่กลับมาเป็นปกติ ดังนั้นเลยให้เจ่อห้าวไปเล่นของเล่นที่ห้องของตัวเอง “ซ่างซี กู้หมิงมาเมื่อไหร่” หลินหยู่นจูคำนวณวัน สองแม่ลูกอยู่ที่บ้านของซ่างซีเกือบๆหนึ่งอาทิตย์แล้ว เธอคิดว่าถ้ากู้หมิงกลับมาจะย้ายออกไปเพื่อไม่ให้รบกวนที่บ้านของเธอมากเกินไป อีซ่างซีชอบเจ่อห้าว อันนี้เธอพอรู้แต่ว่าไม่รู้ว่ากู้หมิงจะชอบเขาไหม…… ผู้ชายที่ประสบความสําเร็จส่วนมากก็จะไม่ค่อยชอบเด็กสักเท่าไหร่ อีซ่างซียื่นมือออกมากุมมือเธอ แล้วพูดว่า “ใครจะรู้ว่าเขา…” น้ำสียงแบบนี้แสดงว่าพวกเขายังไม่กลับมาคืนดี หลินหยู่นจูคิดแล้วคิดอีก แล้วพูดออกมา “ซ่างซี ฉันอยากจะย้ายออกอาทิตย์หน้า” แม้ว่าเธอจะพูดอย่างระมัดระวังแล้วแต่ว่าอีซ่างซีก็ยังคงไม่มีความสุข เห็นแต่หน้านิ่วคิ้วขมวดของเธอเท่านั้น “ยัยนี่ทำไมแบบนี้อ่ะ เธอจะอยู่ที่นี่ไม่ได้หรออีกอย่างฉันก็ไม่ได้ไล่พวกเธอสองแม่ลูกออกไปนิอีกอย่างในอีกอย่างเจ่อห้าวฉันก็ชอบมากด้วย ฉันยังคิดจะเป็นแม่เลี้ยงของเขาอยู่เลย” “ฉันรู้” หลินหยู่นจูรู้อยู่แล้วว่าเธอชอบเจ่อห้าวมาก “รู้แล้วยังจะพาเขาไปจากฉันอีกหรอหะ” “แต่ว่า……กู้หมิงเขาไม่ชอบ” คำพูดของหลินหยู่นจูที่ออกมาทำให้อีซ่างซีเงียบไปครู่หนึ่ง กู้หมิงจริงๆแล้วไม่ชอบเด็กเลย เพราะว่าเรื่องนี้เลยทำให้เธอต้องทะเลาะกับเขาตลอดเวลา นอกจากวิธีนี้แล้วจะหาทางออกที่ดีกว่านี้ก็ไม่มีอีกแล้ว เห็นเธอไม่พูดอะไร หลินหยู่นจูก็รู้แล้วว่าเธอทายถูกทั้งหมด ตาของอีซ่างซีอยู่ๆก็แดงขึ้นมาแล้วก็พูดอย่างโมโหว่า “ไอ้ผู้ชายนั่นดีตรงไหนกันก็แค่เรื่องแค่นี้ยังไม่ทำให้ฉันพอใจเลย” หยู่นจู เธอพูดสิตอนนี้ฉันอายุกี่ปีแล้ว ฉันอายุมากกว่าเธอตั้งสองสามปี มองดูแล้วก็เหมือนกับป้าที่อายุจะสามสิบแล้วถึงตอนนี้ฉันยังไม่มีลูกเลย เขาก็พูดอยู่อย่างเดียวว่าเขายังไม่พร้อม ฉันรู้ว่าเขาไม่ได้วางแผนที่จะแต่งงานและฉันก็รู้สึกว่างานแต่งมันช่างผูกมัดเหลือเกินแต่ก็แค่มีลูกอ่ะ มันมีอะไรยากนักหนา……” อีซ่างซีพูดต่อไปเรื่อยๆแล้วก็สะอึกสะอื้นขึ้นมา หลินหยู่นจูก็รีบเอาทิชชู่ออกมาให้กับเธอ จริงๆแล้วความรู้สึกของเธอและเจ่อห้าวดูออกไม่ยาก อีซ่างซีอยากมีลูกมากๆนั่นก็เดาออก งั้นเรื่องของเขาทั้งสองคนมันเริ่มจากอะไรกัน แต่ว่ายังไงสะเรื่องของพวกเขาก็เป็นเรื่องส่วนตัวแค่นั้น เธอเป็นคนนอกไม่ควรที่จะพูดอะไรมาก 
已经是最新一章了
加载中