บทที่ 12 หน้าอก   1/    
已经是第一章了
บทที่ 12 หน้าอก
บทที่ 12 หน้าอก ชายหนุ่มที่อยู่ด้านหน้ารู้สึกประหลาดใจไปครู่หนึ่ง เพราะครั้งนี้เสียงที่ตอบกลับมาเป็นเสียงของ นรวิทย์ จากนั้นจึงหันไปบอกกลับกับเกวลิน :“เพื่อน ลิฟต์ใช้งานไม่ได้ขัดข้องนิดหน่อย เดินขึ้นบันไดขึ้นไปเถอะ” เกวลินพยักหน้า ได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปได้ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว เธอเอ่ยขอบคุณพวกเขา เดินไปตามทางที่ชายหนุ่มข้างหน้าชี้บอกไป รอจนกระทั่งเกวลินเดินไปลับตาแล้ว หญิงสาวจึงเอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจนัก : “ลิฟต์ก็ไม่ได้เสียนิ” “เป็นคำสั่งของนายน้อยนรวิทย์” “เขาคิดจะทำอะไรของเขาเนี้ย?” “ฉันจะไปรู้ได้ไง อีกอย่างจะทำอะไรก็เป็นเรื่องของเขา เธอก็ไม่ต้องถามมาก อยากอายุสั้นรึไง? ได้ยินมาว่านายน้อยรวิทย์เขา...” ชายที่อยู่ข้างหน้าเริ่มระบายความในใจออกมา“มีอาการป่วยทางจิต ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ใครจะไปรู้ว่าถุกไล่ออกไปจากตระกูลเพษภากุล ด้วยเหตุผลอะไร?” หญิงสาวนึกถึงดวงตาที่เป็นประกายสวยงามเมื่อครู่ :“เธองดงามมากจริงๆ สวยกว่าไอดอลฉันอีก โตกว่านี้อีกหน่อยต้องสวยมากกว่านี้เป็นแน่” ชายหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าก็อดไม่ได้ที่จะเป็นห่วงแทน ยั่วใครไม่ยั่ว มายั่วคนอย่าง นรวิทย์ บันไดของที่นี่ต่างก็สมบูรณ์พร้อมใช้ สถานการณ์ปกติไม่ค่อยมีใครเขาใช้กัน จึงทำให้ทางเดินขึ้นลงบันไดนั้นเงียบกริบ “ถึงทางออกอย่างปลอดภัย” คำเขียนด้วยสีเขียว ประโยคนี้ พาไปถึงลูกศรที่ชี้นำทางไป ไฟทางเดินบันไดสว่างสลัวๆ เกวลินได้ยินเพียงแค่เสียงก้าวเท้าเดินของตัวเอง เธอยังแบกกระเป๋าหนังสืออยู่ที่หลัง พยุงจับราวตรงขึ้นไปข้างหน้า ชั้นสามทางเดินถึงมุมที่ต้องเลี้ยว เธอรู้สึกราวกับชนอะไรโดยที่ไม่ทันระวัง ที่แท้ก็คือหน้าอกนั่นเอง เกวลินตกใจกระโดดยกใหญ่ :“ไอ้หย่า !” มาหลบอยู่ที่มืดๆแบบนี้สถานการณ์แบบนี้เป็นใครเห็นใครก็ต้องตกใจกันทั้งนั้น เธอเอามือกุมหน้าผาก ค่อยๆถอยหลังทีละก้าวทีละก้าว เงยหน้าขึ้นมองเห็นเป็นเค้าโครงหน้าของนรวิทย์ลางๆ เงาสะทอนเรือนร่างอยู่ท่ามกลางแสงสลัว เขาเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย มือกุมอยู่บริเวณที่โดนเธอชน ชายหนุ่มยังร่างกายแข็งแรงกำยำ แต่เธอที่หน้าผากถูกชนกลับรู้สึกเวียนหัวไปครู่หนึ่ง เสียงหวานๆของเธอเอ่ยออกมาพลางตัวสั่น“อั้ยหย่า” ราวดังเสียงนกนางแอ่นที่โดนทำร้าย การชนกันเมื่อสักครู่นี้ ไม่รู้ว่าอะไรที่ชนเข้าไปที่หน้าอกของเขา เกวลินหน้าซีดเผือด ทั้งตัวยังคงสั่นตกใจไม่หยุด เธอมองเห็นใบหน้าของนรวอทย์ไม่ชัด แต่รู้ว่าคนเมื่อสักครู่ที่ชนนั้นคือเขา นรวิทย์ที่เดิมทีไม่ค่อยพูดอะไรอยู่แล้ว เธอจึงรีบเอ่ยคำขอโทษไปยกใหญ่ :“ขอโทษนะคะ นายเจ็บตรงไหนรึเปล่า?” นรวิทย์เม้มปากไปมา :“อืม” เกวลินไม่รู้จะทำอย่างไรดี สถานการณ์แบบนี้สำหรับเธอคือเรื่องที่เลวร้ายดวงซวยมากๆ ใครจะรู้ว่า นรวิทย์ไม่ได้อยู่ในงาน แต่มาอยู่ที่หน้าบันไดมืดๆแบบนี้ “ฉันไม่ได้ตั้งใจ” แม้ว่าเธอจะไร้เดียงสา แต่เธอไม่ได้โง่ ของสิ่งนี้ไม่ว่าถูกชนที่ไหนก็ย่อมทำให้คนนั้นเกิดอาการ? มองไปตรงหน้าเธอยังคงรู้สึกมึนๆ รู้ดีว่าเขากำลังทำให้เธอลำบากใจ ทนไม่ไหวจึงเอ่ยขึ้นเสียงเบา :“ฉันเองก็ทำให้เธอตกใจเหมือนกัน” นรวิทย์กลั้นไว้ไม่ให้ตนหัวเราะออกมา เขาอยู่หลังแสง มองเห็นรูปร่างของเธอ เธอใส่ชุดนักเรียนของโรงเรียน ตราสัญลักษณ์ของโรงเรียนยังคงติอยู่ที่หน้าอกฝั่งขวา ผมปรกหน้าผาก ทำให้เธอที่อยู่ภายใต้แสงไฟยิ่งงดงามมากยิ่งขึ้น ดวงตาสีดำที่ดึงดูด จากช่องลอดผ่านแว่นตายิ่งนุ่มนวลเพิ่มมากขึ้น ทั้งๆที่กลัวเขา แต่ยังคงนิ่งทำใจแข็งไม่กลัวอะไร “ทำไม ชนคนแล้วไม่ยอมรับละครับ เด็กดี ที่โรงเรียนเขาสอนกันอย่างนี้หรอ?” เกวลินเงยหน้าขึ้นมองเขา น้ำเสียงนุ่มนวลค่อยๆโต้แย้งขึ้น“โรงเรียนคริสเตียนพยารามสอนว่า ต้องขอโทษ ยังต้อง......” ครั้งนี้นรวิทย์อดไม่ไหวจึงหัวเราะออกมา :“....” เกวลินได้ฟังจึงรู้ว่าเขานั้นไม่มีเหตุผล กลางคืนที่มืดมิด ท่ามกลางทะเลยังมีไฟประภาคารส่องสว่างจากไกลๆ ..... เป็นแสงเล็กๆระยิบระยับดังดวงดาว ทันใดนั้นเธอนึกถึงคนวัยรุ่นตรงหน้าที่ฆ่าคนเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ฝีมือในการฆ่าของเขานั้นช่างโหดเหี้ยมยิ่งนัก เกวลินรู้ดีว่าเขาเป็นตนอันตราย ห้ามเข้าใกล้เขาเด็ดขาด และยิ่งไม่สามารถที่จะไปมีเรื่องกับเขาได้ เธอตั้งใจโค้งคำนับให้เขา :“ขอโทษค่ะ” รอยยิ้มที่มุมปากของเขาหายไป ภายใต้แสงไฟที่มืดสลัว เธอมองเห็นสายตาของเขาได้ไม่ชัด ไม่รู้ทำไมถึงคิดถึงภาพในปีนั้นที่นรวิทย์...... เกวลินเอ่ยขึ้น :“ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆค่ะ ไม่งั้น......ฉันให้คุณตีคืนเลยก็ได้” เธอยื่นมือเล็กๆที่ขาวประดุจหยกออกมาอย่างลังเล นิ้วมือที่สวยเรียวยาว ถึงแม้ว่าบรรยากาศจะมืดมองไม่ชัดเจน แต่เธอกลับสว่างสดใสที่สุด นิสัยอ่อนโยนนิ่มนวล จ้องมองมาที่มือเล็กๆของเธออยู่นาน จึงเอ่ยขึ้น :“ได้เลย แต่ห้ามร้องว่าเจ็บก็แล้วกัน” เธอพยักหน้าอย่างตั้งใจ นรวิทย์’... มือคู่งามที่อยู่ตรงหน้าช่างนวลงามยิ่งนัก นิ้วเรียวยาวขาวดังหยกขาว เขาไม่เคยเห็นมือใครที่อ่อนช้อยงดงามขนาดนี้ ขนาดแม้เขาที่ว่าหยิงถือตัวและพิถีพิถันยิ่งนัก แต่ก็ไม่มีมือที่งดงามสวยแบบนี้ วินาทีก่อนที่เขาจะโดนมือเธอ เกิดอาการตอบโต้กลับมาอย่างรุนแรง นรวิทย์ชักมือกลับมาอย่าง..... คลำถูกไม้ขีดไฟที่อยู่ในถุง เขาวางไม้ขีดไฟลงบนฝ่ามือของเธอ :“มาจุดบุหรี่ให้ฉัน แล้วเรื่องนี้ก็ถือซะว่าแล้วกันไป” เกวลินชะงักงงมองดูไม้ขีดไฟสีดำที่อยู่กลางฝ่ามือตัวเอง “มาสิ รึจะต้องให้ผู้ใหญ่ต้องเชิญ?” นิสัยอารมณ์ก็เขายังคงแย่มาก เกวลินเดาว่านรวิทย์คงออกมารับลมสูบบุหรี่ เธอคิดเรื่องกระโปรงของตัวเองได้ จึงก้าวเข้าชิดขึ้นไปอีกก้าว นายน้อยสูงกว่าเธอ 27 เซนติเมตร ปีนี้เธอสูง 160 ก็ไม่ถือว่าเตี้ยเท่าไหร่ นรวิทย์กลับสูงมาก เขาพูดจากลับกลอกไปมา ไม่น่าเชื่อถือ ดังนั้นตอนอยู่ข้างนอกจะถูกคนทั่วไปมองว่าเป็นคนกลับกลอกเอ้อระเหยไปวันๆ ไม่ควรไปยั่วโมโห อารมณ์ร้ายมาก นิสัยไม่ดีมีข้อเสียมากมาย นรวิทย์ควบคุมความใจร้อนของตนไม่ได้ จึงหยิบบุหรี่มวลหนึ่งออกมาคาบไว้ที่ปาก หน้าต่างชั้นสามของตึกถูกเลื่อนเปิดออก สายลมเย็นเบาสบายในหน้าหนาวพัดเข้ามา ผมที่ปรกหน้าเธอเริ่มไหวพลิ้ว เธอยกมือขึ้น เขย่งเท้าขึ้นเบาๆเขยิบเข้าใกล้เขา แสงไฟสว่างว๊าบอยู่ครู่หนึ่ง เขาได้กลิ่นหอมที่ถูกลมพัดผ่านโชยมาจากตัวเธอ กลิ่นนั้นนุ่มนวลอ่อนหวานเย้ายวนพิเศษสุดๆ การเคลื่อนไหวที่เหมือนเด็กไร้เดียงสา ...... พอดูก็รู้ว่าไม่เคยทำแบบนี้ให้ใครมาก่อน แต่กลับบอกง่ายเชื่อฟังอย่างคาดไม่ถึง เขามองต่ำลง มือเล็กๆนั้นสั่นเล็กน้อย ผ่านไปครู่ใหญ่จึงจุดบุหรี่ติด เกวลินถอนหายใจเฮือกใหญ่หลังจากที่จุดติด เอาไฟแช๊คใส่คืนให้ที่ฝ่ามือของเขา จากนั้นวิ่งออกขึ้นไปข้างบน ผ่านไปครู่หนึ่ง นิ้วทั้งสองคีบบุหรี่ขึ้น .... ควันลอยคลุ้ง บุหรี่เผาไหม้ไปครึ่งมวล เขามึนงงจนแทบจะลืมหายใจ คาบไว้เฉยๆไม่ได้สูบแม้แต่น้อย อย่าให้เขาได้เจอกับเธออีก ไม่งั้นละก็......   ~ เกวลินขึ้นมาชั้นบน จึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก กลุ่มคนชั้นห้าของอันไห่ทิงกำลังเต้นรำกัน เกวลินมองผ่านผู้คนไป มองเห็นอลิสาเข้าพอดี ที่แย่ไปกว่านั้นคือ อริสากำลังเตรียมตัวจะเต้นรำ อลิสาใส่กระโปรงที่เป็นของเธอ กระโปรงตัวนี้ขนาดไม่เหมาะพอดีกับอลิสาเลย เพราะเธอหุ่นไม่ดี หน้าอกไม่อิ่มเอมเต็มที่ จึงดูไม่สวยงาม ปีนั้นแม้ขนาดเสื้อผ้าที่เด็กหญิง ใส่ ก็ไม่มีชุดไหนที่งดงามเท่ากับชุดนี้ ความงดงามของชุดพื้นบ้านสีคราม เมื่อเดินเคลื่อนไหวขนพลิ้วไปตามลม ชายกระโปรงยาวมาก เย้ายวลสายตาของเด็กผู้หญิงคนอื่นๆไม่น้อย อลิสาพอใจยิ่งนัก เพราะว่ามีผู้หญิงที่ฐานะทางสังคมดีสองสามคน เห็นกระโปรงของเธอก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามออกมาว่าซื้อที่ไหน อลิสาเอ่ยตอบ :“ชุดนี้จะไม่มีขายที่ไหนหรอกค่ะ เป็นกระโปรงตัดพิเศษ บนโลกนี้มีเพียงชนิดเดียวไม่เหมือนใคร” หญิงคนนั้นชอบมากยิ่งนัก ..“ได้ยินแบบนี้ยิ่งอดไม่ได้ :”เฮิ้ม ของหายาก” อีกทั้งมีชายหนุ่มสองคนส่งสายตามาให้เธอ อลิสามีความสุขยิ่งนัก คนกลุ่มนี้ต่างก็เป็นคนมีเงิน โดยหากเป็นปกติพวกเขาจะไม่มองเธอแม้แต่สายตาเดียว แต่คืนนี้ เธอใส่ชุดนี้ รู้สึกว่าในที่สุดก็หลุดพ้นถูกเห็นความสำคัญสักที เหล่าผู้คนที่ถามถึงเรื่องกระโปรงของเธอไม่นานก็พากันกลับมาหาเธอในมือถือแก้วไวทืแดง น้ำเสียงเสียดยีถากถาง“ได้ยินข่าวว่าเธอเต้นรำเป็นด้วยนี้ ลองโชว์สักหน่อยป่ะ อีกอย่างวันนี้เล่นสนุกๆซ่ะขนาดนี้ อลิสาเต้นเป็นที่ไหนกันเล่า เรื่องเต้นรำนั้นตอนเรียนแรกๆก็ดูตั้งใจดี แต่มาหยุดก็เพราะอาจารย์สอนที่แสนโหดบังคับให้เธอซ้อมอย่างหนักจนเธอรู้สึกทรมานและเจ็บปวด พออรุณเดทได้ยิน จึงวางไมโครโพนและเดินมาหาเธอด้วยท่าทีที่สนใจเป็นยิ่งนัก :“ใช่สิ เธอคือ...อ อริสาใช่ไหม คนสวย เต้นให้ดูสักหน่อยสิ!” กลุ่มผู้ชายต่างพากันผิวปากแซวปรบมือกันยกใหญ่ :“เต้นสักหน่อยเถอะ!” อลิสาพอขึ้นหลังเสือแล้วลงยาก ไหนๆก็ทำถึงขนาดนี้แล้ว ไหนๆอรุณเดท ก็เป็นคนเซ่อๆซ่าๆอยู่แล้ว ยังช่วยเธอเลือกเพลงที่สุภาพไพเราะ :“เต้นเถอะ” อลิสาเริ่มเต้นในเวลาต่อมา ตื่นเต้นใจสั่นอย่างสุดๆ ใจเต้นแรงจนยากเกินจะควบคุมได้ แซม กดปิดรีโมทและเอ่ยขึ้น :“เพลงไม่ถูกหรอ? หรือว่าอารมณ์ไม่ได้?” ตลอดทั้งค่ำคืน สิ่งที่เธอเฝ้าฝันมาตลอด ในที่สุดทุกสายตาของผู้คนต่างจับจ้องมาที่ตัวเธอ เพียงแค่อยากดูเธอเต้นเท่านั้น อลิสาเต้นไม่เป็นอย่างแน่นอน ในใจเธอก็คิดว่า เธอไม่ใช่เกวลิน ที่ทำเป็นแทบทุกอย่าง เธอไม่ถนัดในสิ่งเหล่านี้ พอเต้นเท่านั้นแหละความลับก็ถูกเปิดเผย สายตาเธอแว๊บมองไปที่เค้กสูงที่ถูกตกแต่งอย่างหรูหราที่อยู่ข้างๆ ถ้าเกิดว่า....ชุดเปื้อนอะไรสักอย่าง ก็น่าจะไม่ต้องเต้นตามคำร้องขอของทุกคนอีกแล้ว? แต่ก็ยังคิดเสียดายกระโปรงตัวนี้อยู่ไม่น้อยเช่นกัน แต่ว่าจะทำการกลับคำเป็นการตบหน้าตัวเองแบบนี้ก็ไม่ได้ อีกอย่ากระโปรงเปื้อนแล้ว ซักๆซักหน่อยก็เอากลับมาใส่ได้แล้ว อลิสาจับที่ชายกระโปรงของตัวเอง ย่อเข่าลงทำการเคารพก่อน ถอยหลังไม่กี่ก้าวก็ไปโดนเค้กก้อนใหญ่ก้อนนั้นแล้ว ต่อให้เกวลินจะควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดีแค่ไหน แต่หากมองเห็นกระโปรงที่ตัวเองหวงกำลังจะโดนกับเค้กแบบนี้ ก็จำต้องโมโหโกรธออกมา นั้นเป็นสมบัติที่แม่เธอหลงเหลือไว้ให้กับเธอนะ! เกวลินตะโกนขึ้นเสียงดังใสชัดเจน :“อลิสา!” อลิสาตกใจ หันกลับไปดูก็มองเห็นเกวลินที่อยู่ในคราบชุดนักเรียนกำลังยืนอยู่หน้าประตู เธอตกใจชะงักทำอะไรไม่ถูกไปครู่ใหญ่ เธอนึกว่าที่เกวลินบอกว่าจะตามเอากระโปรงเธอคืนนั้นแค่ขู่ให้เธอกลัวเท่านั้น คิดไม่ถึงว่า เกวลินจะมาจริงๆ เธอขึ้นมาได้ยังไงกัน? อันไห่ทิงไม่ได้ปล่อยให้คนนอกเข้ามาได้ง่ายๆไม่ใช่หรอ? เกวลินมองไปยังกลุ่มคนที่ต่างก็ส่งสายตาจับจ้องมาอยู่ที่เธอ เธอเองก็คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะต้องมาอยู่ในสถานการณ์ที่ตกอยู่ในสายตาของเหล่าชนที่สูงศักดิ์แบบนี้ และใส่เสื้อผ้าที่เก่าๆเยินๆและค่อนข้างต่ำต้อยสู้คนอื่นไม่ได้แบบนี้ เธอเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าของอลิสา ราวกับกลับมาเป็นเกวลินที่อายุ14ปีอีกครั้งหนึ่ง อ่อนโยนนุ่มนวลยากเทียบเคียง แต่กลับยิ่งทะนงสูงศักดิ์ :“ เปลี่ยนชุดแล้วเอาคืนมาให้ฉัน เดี๋ยวนี้” อลิสาไม่เคยเห็นท่าทีแบบนี้ของเกวลิน เธอหันกลับไปมองยังอรุณเดท “ขอโทษทีนะ เพื่อนอรุณเดท เหรียญทองเอวานนี้ สามารถคืนให้ฉันได้ไหม?”
已经是最新一章了
加载中