ตอนที่ 7 ปรนนิบัติหรือไม่   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 7 ปรนนิบัติหรือไม่
ตอนที่ 7 ปรนนิบัติหรือไม่ อวี่นเหวินกลินนั่งอยู่ข้างเตียง เอียงกายมามองนางอย่างเพลิดเพลิน นางปิดตาไว้ ใบหน้าเรียวเล็ก แต่งหน้าแต่งตาอย่างประณีต เผยความสวยน่าดึงดูดรางๆ กลยุทธ์สาวงาม? ผู้หญิงโง่ แผนการณ์นี้ผู้หญิงอื่นอาจใช้ได้ผล แต่กับเจ้า ข้าละชอบ? เขายื่นมือไปหยิกใบหน้าของนาง เหมือนหยิกลูกพลับนิ่มลูกหนึ่ง พูดกล่าวอย่างสะใจ“เจ้าก็มีวันนี้ ” คำพูดนี้ฟังแล้ว คล้ายว่าทั้งสองคนเป็นศัตรูกันมาเป็นสิบๆปี คนบนเตียงนอนได้นิ่งมาก ต่อหน้าเขาที่ยุกโยงเช่นนี้ ก็ไม่ขยับเขยื้อนเลย อวี่เหวินหลินพใจมา ผู้หญิง แค่ตอบโต้ยังไม่เป็น? เป็นเพราะโดนอำนาจที่ไม่สามารถถคัดค้านได้ของตนเองเอาชนะแล้วหรือ? แต่ที่ตามมาคือ ความน่ากลัวลึกลึก เขารู้สึกได้แย่างชัดเจน นางเหมือน… ไม่มีลมหายใจ? นางตายแล้ว?ตายแล้วจริงๆ?มือขวาที่สั้นของเขาลองไปตรวจลมหายใจตรงจมูก ตามนั้น สิ้นลมหายใจ ในใจเขา เหมือนโดนก้อนหินก้อนใหญ่ทับไว้ หายใจลำบาก ผู้หญิงโง่นี้ตายแล้ว ตนเองต้องดีใจถึงจะถูกสิ นี้ความรู้สึกเสียใจที่ยากจะปกปิดนี้คืออะไร? เขาเหมือนบ้าแล้วโอบกอดนางเข้ากลางอก สองคิ้วขมวดแน่น เวลานั้นลมพัดเข้ามา แสงเทียนโบกไปมา เขาโอบกอดนางไว้อย่างแน่น น้ำเสียงที่โศกเศร้าเปลี่ยนเป็นมีพลัง“เฟิ่งชิงเสว่ ข้าสั่งให้เจ้าห้ามตาย!เจ้าฟื้นคืนมาให้ข้า!ได้ยินหรือไม่!” “ได้ยินแล้ว ” หญิงบางคนลืมตาขึ้น ตอบด้วยรอยยิ้ม อวี่เหวินหลินตกกะใจ รีบปล่อยนาง ลุกยืนขึ้น ชี้ที่จมูกนางแล้วตะคอก“ไอบ้า เจ้ากล้าหลอกข้า!” เฟิ่งชิงเสว่แลบลิ้นใส่เขา“ฝ่าบาท การทหารไม่เบื่อหน่ายกลอุบาย ” คราวนี้ ก่อนหน้านางฟื้นคืนชีพอย่างไร ก็คงเข้าใจแล้ว,เฟิ่งชิงเสว่ก็มีแผนการณ์ในใจเช่นกัน ทำเช่นนี้ ก็เพื่อรับล้างข้อสงสัยที่ว่าปีศาจสิงร่าง อวี่เหวอนหลินโมโห คิดแล้วคิดอีก คิดไม่ถึงว่านางจะมาไม้นี้ ปัดโธ่! “เฟิ่งชิงเสว่ข้าไม่ปล่อยเจ้าแน่!” ฮ่องเต้ถอดเสื้อคลุมนอกลง แล้วไปกดทับหญิงบางคนบนเตียง จากนั้น หญิงบางคนพลิกกลับมากดทับใต้กาย เบาลมต่อเขาทีนึง ฮ่องเต้ปี่เซีย ก็หมดสติหลับไป ปีศาจจิ้งจอก ก็ต้องมีฝีมือป้องกันตัวบางเล็กหน่อย ใต้ความภาวนาของทุกคน,ทั้งสองก็ได้ผ่านค่ำคืนที่แสนจะ“เป็นมิตร”ไปคืนนึง อาทิตย์ขึ้นยามเช้า อวี่เหวินหลินตื่นขึ้นมา ข้างกายไร้คน เปิดผ้าห่มดู ยังดี ความบริสุทธิ์ยังอยู่ เมื่อคืนเขาแค่โมโหเกินไป ถึงได้ไม่สนอันใดไปกดทับเขา ตอนนี้คิดคิดแล้ว ตนเองวู่วามไป ผู้หญิงแบบนั้น สมควรได้รับความโปรดปรานไม? เสี่ยวหลินจือเข้ามารับใช้ช่วยเขาเปลี่ยนชุด กล่าวด้วยเสียงเบา “เสียงร้องของฮองเฮาเมื่อคืนนี้ ช่างหลงไหลมากมาย…” อวี่เหวินหลินตะลึง ขาขวาแตะไปด้านหลังทีนึงโดยไม่รู้ตัว อีผู้หญิงคนนั้น ทำอะไรไปถึงถึงทำให้ตนเองเป็นลมหมดสติไปคืนนึง?และสร้างลมปลูกคลื่นเช่นไรตอนตนเองหมดสติไป ครั้งหนึ่งทนได้ บ่อยไปจะไม่ทน! ฮ่องเต้เหมือนดั่งเคยไปทรงราชกิจที่พระตำหนักจิงเซียว แต่เพียงครั้งนี้ไม่เหมือนเล็กน้อย สภาวะจิตใจค่อนข้างแย่ หน้าดำบึ้งตลอดเวลา เหมือนด่างน้ำหมึก รอบกายเย็นชาสู้คน เหล่าขุนนางรู้ถึงฝ่าบาทอารมณ์มิดี เสียงบังคมทูลเบาแล้วเบาอีก “ฝ่าบาท พิธีแต่งตั้งราชินีไม่ควรรอช้า ขอกรุณาฝ่าบาทจัดสรรค์เงินตำลึงให้ กระหม่อมจะได้จัดเตรียม ”เสนาบดีกรมพิธีการพูกล่าว ก้มศีรษะไว้ ไม่กล้ามองหน้าแวี่เฟวินหลิน อวี่เหวินหลินเป็นเพราะผู้หญิงคนนี้ถึงอารมณ์ไม่ดี ถึงในราชกิจ ดรียงที่หารือก็ยังเกี่ยวกับนางอีก ยิ่งทำให้รู้สึกเคร่งเครียด “เมื่อฮ่องเต้องค์ก่อนตอนครองราชย์ทรงเน้นความพอเพียง ปัจจุบันข้าก็จะสืบทอดความดีของฮ่องเต้องค์ก่อน เช่นนั้น พิธีปต่งตั้งราชินี ที่ควรประหยัดก็ประหยัดไป ”สายตาคู่ที่สวยงาม เผยความขี้เหนียว เสนาบดีกรมพิธีการสับสนเล็กน้อย เลยเบาเสียงถามอีก“งั้นฝ่าบาทหมายถึง ควรประหยัดอะไร?” แน่นอนว่าประหยัดทั้งหมดยิ่งดี ในใจอวี่เหวินหลินเกรียจเกียจ ใช่เงินทองเพื่อผู้หญิงคนนั้น กษัตริย์อย่างเขาเสียดายและปวดใจยิ่งนัก “แล้วแต่เจ้าคิดพิจารณาเถอะ”สักพัก ฮ่องเต้พูดคำเช่นนี้ออกมา จากนั้นสะบัดชายเสื้อแล้วออกจากไป พอเสนาบดีกรมพิธีการได้ยินก็ขมใจยิ้ม คิดพิจารณาไตร่ตรองด้วยตนเอง?ถ้าเขาตัดสิ้นใจได้ด้วยตนเองจะมากล่าวถึงในราชกิจทำไมละ?เหอ เคียงท่านกั่งเหมือนเคียงเสือ ช่วยแบ่งเบาปัญหาไม่ง่ายเลย หลังเลิกจากราชกิจเช้า เหล่าขุนนางออกจากตำหนักจิงเซียวตามลำดับ ตัวขาวขนฟูวิ่งวุ่นวายกลางหมู่คน จากไม่ไกลมีเสียงลอยมา ไพเราะน่าฟัง แต่เผยด้วยอำนาจ“ระวังกันหน่อย ห้ามเหยียบโดนทางเอวี๋ยนของข้าละ!’ ไม่ต้องพูด นี้ต้องเป็นองค์หญิงชีเหอจอมซนท่านนั้น ใช่แล้ว ทันใดนั้น หญิงสาวสวมชุดหรูหราผู้หนึ่งวิ่งมา นั่งลงอุ้มตัวขนฟูขึ้นมาตรงอก “ถ้ายังวิ่งวุ่นวายไปเรื่อย ข้าจะตีขาหมาของเจ้าหัก ” ชีเหอตบหัวมันเบาๆทีนึง ตัวตรงอ้อมอกแลดูยโสกว่านายของมัน ทำเหมือนไม่สนเขา เงียบไว้ สายตากลมเวามองไปทางอื่น “ถวายบังคมองค์หญิง ”เหล่าขุนนางตั้งก้มตัวเคารพ ชีหอนี้ถึงยื่นขึ่นมา กล่าวด้วยรอยยิ้ม“ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ทุกคนกลับกันเถอะ ” ระหว่างหันมา ขี่เหอสังเกตถึงคนคนนึง “ใต้เท้ากู่ดูอารมณ์ไม่ค่อยดี เล่าให้ข้าฟังได้หรือไม่?” ชีเหอมีความชอบสองอย่าง หนึ่งคือสุนัข สองคือเรื่องคนอื่น นางชอบยุ่งเรื่องคนอื่นมาก ไม่ว่าเรื่องอันใดก็อยากจะยุ่ง พอได้ยินขุนนางบ้านไหนมีอะไรขัดแย้งกัน ก็ทำตัวอย่างแมลงวันไปถึงบ้านคนเขา ปรับความเข้าใจให้เขา ถึงแม้ผลจะยิ่งแย่ลง แต่นางก็มีความสุขไม่เหน็ดเหนื่อยเลย ความชอบส่วนตัว ช่วยไม่ได้
已经是最新一章了
加载中