ตอนที่11 ได้สมใจอยาก   1/    
已经是第一章了
ตอนที่11 ได้สมใจอยาก
ตอนที่11 ได้สมใจอยาก เป็นเพราะบารมีของชีเหอ เต้าซื้อน้อยจึงได้สมดั่งใจ “เจ้าชื่ออะไร?”ชีเหอพาเต้าซื่อน้อยเดินไปตำหนักนึงในวัง บนกลางตำหนักมีป้ายว่า”พระตำหนักหลิวฟาง”สามพยางค์น่าตื่นตา ตำหนักหลิวฟางนั้นอวี่เหวินหลินเป็นผู้ประทานให้นาง เพราะไทเฮาชอบใจสาวน้อยฉลาดขี้เล่นคนนี้ บางเวลาก็ให้นางค้างคืนในราชวัง ให้นางมีตำหนักส่วนตัว ก็สะดวกหน่อย “กลับทูลองค์หญิง ข้าน้อยลั่วเฉิน ”น้ำเสียงเขินอายยิ่ง ต่อหน้าหญิงสาวที่ทั้งสวยฉลาดและใจ เขารู้สึกตื่นเต้นโดยไม่รู้ตัว ชีเหอนำทาง ทางเอวี๋ยนอยู่นิ่งนิ่งเงียบเงียบกลางอ้อมอกของนาง ท่าทีดูช่างสุขใจยิ่งนัก หลังเข้าไปในตำหนักหลิวฟาง ชีหอก็สั่งคนนำเสื่อผ้าชุดนึงมอบให้ถึงมือลั่วเฉิน “อะ เปลี่ยนชุดสัก ในรูปลักษณ์เต้าซื่อจะไปไหนมาไหนไม่ค่อยสะดวก ขันทีจะดีกว่าหน่อย ”ไม่พูดไม่ได้ บางทีองค์หญิงชีเหอก็เป็นหญิงสาวที่ละเอียดอ่อนคนนึง ลั่วเฉินไม่รังเรเลยเพียงแต่นิด ขอแค่ได้ปรับปีศาจ ให้เขาทำอะไรเขาก็ยอม หลังเปลี่ยนชุดเสร็จ ชีเหอก็ชี้ไปที่ดาบตรงเอวเขา ยิ้มกล่าว“ขันทีคนนึงมีดาบติดตัวตลอด ไม่สำควรมั่ง?” ขันทีส่วนมากจะอ่อนไม่ทนลม เป็นพวดดาบมีดไม่มาก็จริงๆ ลั่วเฉินยิ้มแย้ม นำดาบเอาออกจากเอว ปากท่องคำ ทันใด ดาบเล่มนั้นก็หายไปไม่เห็นเงา ชีเหอสีหน้าตกใจ นี้ยิ่งกว่าการแสดงของนักกายกรรมน่าทึ่งมาก ลั่วเฉินเห็นว่าใจนางสงสัย เอ่ยปากอย่างอ่อนโยน“เมื่อเวลาข้าจะใช้มัน เพียงแค่ท่องคาถา มันก็จะปรากฏออกมาเอง ” ชีเหอรู้ตัวฉับพลัน จากนั้นก็ยิ้มแย้ม น้ำเสียงชื่นชมอย่างยิ่ง“เจ้ามาจากเขาสู่ซานจริงหรือ?”นางคิดว่าโดยตลอดว่าฝึกเซียนเขาสู่ซานเป็นเพียงคำร่ำลือเท่านั้น แต่ปัจนี้ดูแล้วคงจะเป็นเช่นนั้นจริง ลั่วเฉินได้ยิน ในใจมีความภูมิใจเล็กน้อย เชิดหน้าตัวตรง“ข้าน้อยเป็นลูกศิษย์เขาสู่ซานจริง อาจารย์คืออี่เหยียนสือจุน ” เมื่อชีเหอได้ยิน ยิ่งรู้สึกปลาบปลื้ม คนธรรมดาสามารถถฝึกเซียนได้ นี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่ง “งั้นพวเราไปหาปีศาจตอนนี้เลยเถอะ เจ้าปรับปีศาจให้กลับเป็นตัวตนที่แท้จริง ดูว่ามันกลายร่างมาจากอะไร จะน่ารักกว่าทังหยวนของบ้านข้าหรือไม่!”ชีเหอพูดจบ ก็รีบลากเขาออกเจ้าตำหนักหลิวฟาง เต้าซื่อน้อยโดนผู้หญิงจับมือเป็นครั้งแรก ในใจเกรงเล็กน้อย ลั่วเฉินเป็นศิษย์เขาสู่ซาน อันนี้ไม่ผิด เขาเป็นวิชา นี้ก็ไม่ผิด แต่เพียง ยังมีปัญหาเล็กน้อยที่ไม่สามารถถให้ผู้อื่นรู้ได้ หน้าประตูตำหนักเฟิ้งกุย ชายหนึ่งหญิงหนึ่งลังเลไม่เดินหน้า “เจ้าแน่ใจว่าปีศาจอยู่ข้างในนี้?นี้เป็นตำหนักของเสด็จป้าข้านะ ด้านในเป็นฮองเฮานะ” ชีเหอถามอย่างจริงนัง เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่พูดเล่น ถ้าไม่แน่ใจ นางไม่กล้าพลุ่งพล่านพาเขาเข้าไปจับปีศาจ ลั่วเฉินพยักหน้าอย่างมั่นใจ มั่นใจกว่าก่อนหน้านี้ที่อยู่หน้าประตูราชวัง ชีเหอมองป้าย“ตำหนักเฟิ้งกุย”สักนาน จิบริมฝีปากไว้ ตกอยู่ในความเงียบอย่างลึก เสด็จอารักเสด็จป้าเช่นนี้ ถ้าหาปีศาจไม่เจอ เสด็จอารู้เข้า จะโกรธจนหันข้าเป็นชิ้นแน่? ถึงนางจะเชื่อฝีมือของลั่วเฉิน แต่ก็เชื่อเสด็จป้าด้วยเช่นกัน เสด็จป้าเฉลียวฉลาดดช่นนี้ ตำหนักของนางจะมีปีศาจได้อย่างไร? กินไม่เข้าคายไม่ออกจริงๆ ลั่วเฉินดูออกถึงความรังเรของชีเหอ น้ำเสียงเบาไปกล่าวถึง“องค์หญิงพาข้าน้อยเข้าราชวัง ข้าน้อยก็ขอบคุณอย่างยิ่งแล้ว ถ้าองค์หญิงไม่สะดวกเข้าไป งั้นข้าน้อยก็ไม่บังคับอย่างแน่นอน ” ชีเหอมองไปที่เขา เห็นเขาสีหน้าจริงจัง นางก็ยังคงใจอ่อนแล้ว งั้นก็ลุยเลยเถอะ อย่างมากก็แค่ตาย ชีเหอสูบลมหายใจเข้าลึกๆทีนึง พาลั่วเฉินเข้าไปในตำหนักเฟิ้งกุย ตอนนั้นเฟิ่งชิงเสว่กำลังนอนพิงอยู่ แล้วแต่บางคนค่อยๆเข้าใกล้ ใจของนางชะงัก สองตาลืมขึ้น หญิงสาวชุดม่วงกับคนแต่งกายดั่งขันทียืนอยู่ตรงหน้า แนนอนว่าลั่วเฉินดูออหทันทีว่านางคือปีศาจ แต่อย่างไรก็ตามชีเหออยู่ตรงนี้ ถ้าต่อสู้กันขึ้นมา กลัวจะทำผู้บริสุทธิ์บาดเจ็บได้ เฟิ่งชิงเสว่ก็ไม่ใช่คนโง่ ถึงแม้เขาจะแต่งชุดขันที แต่กลางคิ้วเผยกลิ่นไอเทพ ทั้งกายไม่มีกลิ่นอายกลิ่นอายความเปรอะเปื้อนแม้แต่นิด ต้องเป็นผู้อินทรีย์ทั้งหกใสสะอาด ไว้ผมยาว งั้นต้องเป็นเต้าซื่อแน่ หนึ่งเต้าหนึ่งจิ้งจอกจ้องมองกัน เหมือนจะใช้สายตาทิ่มแทงฝ่ายตรงข้าม “ชีเหอมาแล้วหรือ ขันทีข้างกายเจ้าคนนี้ช่างแปลกหน้า ”สักพัก เฟิ่งชิงเสว่ลุกยืนขึ้น หลงสายตาของเขา เปิดปากพูดกล่าวกับชีเหอ ชีเหอยิ้มแล้วเกาลำคอ พูดอย่างติดอ่าง“คือ เขาคือ เขา……” แต่แรกตามกลางเมืองก็มีคำเล่าลือว่าเสด็จป้าเป็นปีศาจจิ้งจอกเข้าสิง แน่นอนว่านางไม่เชื่อ แต่ถ้าให้บอกเสด็จป้าว่าลั่วเฉินแท้จริงเป็นเต้าซื่อนั้น เสด็จป้าคงไม่พอใจแน่ สายตาที่แหลมคมของลั่วเฉินจ้องมองเฟิ่งชิงเสว่ตลอด ไม่คาดสายตาสักนิดเดียว “ปีศาจ ซ่อนตัวได้ลึกนัก ถึงกล้ามาปลุกลมสร้างคลื่นถึงราชวัง ” วิชาส่งเสียง ผู้ฝึกวิชาต้องเป็น เฟิ่งชิงเสว่ยิ้มอย่างเยือกเย็น“เต้าซื่อน้อย คิดว่าตนมีวิชาเล็กน้อย ก็จะรนหาที่ตายหรือ?” การพูดคุยของพวกเขาแน่นอนว่าชีเหอไม่ได้ยิน นางยังกำลังลังเลสถานภาพของลั่วเฉินเรื่องนี้ “ใครตายยังไม่แน่นอน ”ลั่วเฉินกัดฟันด้วยความแค้น ลงจากเขามาพบเจอปีศาจตนแรก ช่างยโสมองคนไม่ขึ้นเช่นนี้ เฟิ่งชิงเสว่ลงหนังสือประลอง“ออกไปสู้ ” นางก็คิดกังวลถึงผู้อื่น ความคัดแย้งของปีศาจกับเต้าซื่อ ไม่เคยหยุดมาก่อน แต่ว่าครั้งนี้ดวงดี ฝ่ายตรงข้ามเป็นเพียงเต้าซื่อน้อยที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม อย่างที่ว่าลูกวัวแรกเกิดไม่กลัวเสือ ลั่วเฉินเพื่อที่จะซ้อมมือ ก็เพื่อความฝันไม่กลัวตาย“สู้ก็สู้ ใครกลัวใคร ” ทั้งสองจิตวิญญาณออกจากร่าง ไปตรงป่าไผ่หลังเขาราชวัง
已经是最新一章了
加载中