บทที่ 146 ล่องลอย
1/
บทที่ 146 ล่องลอย
หลงรักสามีจอมปลอม
(
)
已经是第一章了
บทที่ 146 ล่องลอย
บทที่ 146 ล่องลอย แต่ถึงจะชอบเธอยังไง ก็ต้องปล่อยให้เธอไปจากตนให้ไกลเรื่อยๆ ทั้งหมดมันคงเป็นชะตาฟ้าลิขิต ที่ลิขิตให้พวกเราได้พบกันแต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน เพ็ญนีติ์นั่งพิงอยู่ที่โซฟาเอ่ยขึ้นด้วยจิตใจที่สงบด้วยน้ำเสียที่ราบเรียบว่า “ปุริม เราเป็นเพื่อนกันเถอะ” เพราะนอกจากเป็นเพื่อนก็เป็นอย่างอื่นไม่ได้แล้วครึ่งปีแล้วสินะ สัญญาในตอนนั้นสิ้นสุดลงแล้ว เธอแค่อย่างให้ตัวเองมีอิสระได้โบยบิน เธอต้องทำได้สิ “แล้วลูกหล่ะ?” เขาก้าวยาวๆเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้า ร่างสูงก้มลงมองเธอ ก้นบึ้งของหัวใจกลับเกิดความรู้สึกหวั่นกลัวขึ้นมาทันที “ถ้าคุณอยากพบพวกเขา คุณสามารถมาพบได้ตลอดเวลา แต่เด็กๆต้องอยู่กับฉันเท่านั้น” เธอเลี้ยงลูกคนเดียวมาตั้งแต่ลูกยังเล็ก แน่นอนว่าเธอและลูกไม่สามารถแยกจากกันได้ “ไม่ได้เพ็ญนีต์” เขาเอ่ยเสียงแข็งเบาๆ หากไม่ใช่เพราะกลัวว่าลูกที่นอนอยู่ในห้องข้างๆอาจจะยังหลับไม่สนิทเขาอยากจะจับหญิงสาวหิ้วขึ้นบ่า “ถ้าคุณไม่ยอม งั้นฉันจะพาอ้อยและส้มไปจากคุณเดี๋ยวนี้เลย” เธอยิ้มแห้งๆมองเขา ใบหน้าไม่ปรากฏความประนีประนอมใดๆ ครึ่งปีที่ผ่านมา เปรี้ยวหวานมันเผ็ดทุกรสชาติชีวิต เธอต่างลิ้มลองมาหมดแล้ว ตอนนี้เธออยากมอบความสุขให้กับลูกของเธอมากที่สุด และเธอต้องทำให้ลูกมีความสุขได้แน่นอน ตอนนี้ธุรกิจในอินเทอร์เน็ตของเธอกำลังไปได้ดีมาก ดีกว่าเมื่อก่อนตอนเปิดร้านเล็กๆอีก นอกจากนี้ยังมีอิสรเสรีด้านเวลา เธอจะไม่ยอมแพ้เป็นอันขาด คนเรามีเพียงการพึ่งพาตัวเองเท่านั้น ที่จะทำให้ชีวิตตัวเองมีความสุขและมีอิสระ เธอไม่ใช่กาฝากนะ ฉะนั้นเธอไม่ใช่ผู้หญิงประเภทที่เกาะผู้ชายกิน “เพ็ญนีติ์ คุณลืมไปแล้วหรอว่าลูกใช้นามสกุลผม?” เสียงแหบสากเอ่ยขึ้นเบาๆ กำมือแน่น จนเล็บจิกเข้าไปยังเนื้อ บอกตามตรงเลยว่า เขาไม่อยากให้อ้อยและส้ม ออกห่างจากตน เลือดยังไงก็ต้องเข้มกว่าน้ำอยู่แล้ว ยังไงก็คือลูกของเขา นี่ยังไม่นับเรื่องที่เธอปิดบังเรื่องลูกกับเขามานานถึงหกปี “เฮอะ แต่ลูกฉันเป็นคนคลอดออกมา ถ้าให้ลูกๆเป็นคนเลือกเองว่าจะอยู่กับใคร คุณว่าพวกเขาจะเลือกใคร คุณหรือว่าฉัน?” คำตอบมันก็ชัดเจนขนาดนี้ เด็กๆกลัวจะเสียเธอไปมากขนาดไหนก็รู้ๆกันอยู่ ปุริมแสยะยิ้มอีกครั้ง “เพ็ญนีติ์ คุณอย่าลืมสิที่พวกเขาหนีมาก็เพราะตามหาผม พวกเขาห่างผมไม่ได้ ลูกต้องการพ่อ ต้องการความรักจากพ่อ ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณให้เขาไม่ได้” เธอรู้สึกปวดหัวและปวดใจในขณะเดียวกัน ก็จริงที่เด็กๆต้องการความรักจากพ่ออย่างเขา ริมฝีปากถูกเม้มเข้าหากันอย่างนั้นไปพักหนึ่ง ทำให้เขารู้สึกปากคอแหบแห้งไป ไม่รู้เลยว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่มาถึงจุดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน “ก็ฉันรับปากแล้วไง ว่าให้คุณมาหาลูกได้ทุกเมื่อ แบบนี้ มันก็มากพอแล้ว” คำพูดอันหนักหน่วงถูกเปล่งออกมา กาลเวลาที่ผ่านเรื่องราวที่พบทำให้ตัวเธอค่อยๆเปลี่ยนไป เปลี่ยนไปเป็นผู้ใหญ่ขึ้น และมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น เขามองเข้าไปยังนัยน์ตาของเธอ ที่ดำและลุ่มลึก ไม่ใช่ผู้หญิงที่เมื่อก่อนที่เขาสามารถอ่านใจได้อีกต่อไป เธอเปลี่ยนไปแล้ว เปลี่ยนไปจนเขายากจะคาดเดาได้ ความทะนงตนทำให้เขายิ้มออกมา : “ก็แล้วแต่คุณ แต่ว่า หวังว่าคุณจะจำคำพูดของคุณได้ ที่ให้ผมพบลูกได้ตลอดเวลา” “ได้” เธอตอบอย่างเบิกบาน หันหลังให้กับเขา พลิกตัวกลับไปพิงโซฟาเหมือนเดิม โดยไม่หันกลับมามองเขาอีก ในห้องรับแขกเงียบมาก ขนาดเสียงประทัดที่ดังอยู่ข้างนอกยังกลายเป็นเสียงแว่วเบาราวฝัน ขนาดเสียงหายใจของคนที่อยู่ข้างหลัง ก็ค่อยๆเงียบหายไป เขายอมแล้วหรอ? เธอคิดว่าไม่ใช่อย่างที่คิด จึงค่อยๆกลับหลังหัน ที่แท้ก็ไม่อยู่ เมื่อเงี่ยหูฟังจึงได้ยินเสียงน้ำไหลในห้องน้ำ ผู้ชายคนนี้อาบน้ำก็ไม่ปิดประตูห้อง ขนาดประตูห้องน้ำก็ยังไม่ยอมปิด เอามือปิดหูไม่อยากได้ยินเสียง แต่เสียงน้ำนั้นกลับชอบมาดังทะลุหูของเธอ จะปิดยังไงก็ยังได้ยินอยู่ดี ผ่านไปครู่ใหญ่ๆ เสียงน้ำนี้ก็หยุดลง พอนึกถึงความสบายตัวหลังจากอาบน้ำเสร็จ เพ็ญนีติ์รู้สึกว่าตัวเองสกปรกเหนียวตัวไปหมด แต่ก็อดทนไว้ เพราะเธอเป็นคนพูดเองว่าจะไม่อาบน้ำ สถานการณ์ข้างหลัง ค่อยๆนิ่งสงบลง เพ็ญนีติ์หลับตาลงอยากให้ตัวเองหลับได้เร็วๆ ถ้านอนหลับแล้วก็จะไม่รู้เรื่องอะไรใดๆ เรียกได้ว่าง่วงเต็มทนแล้ว จากที่ตามหาเด็กๆจนไม่ได้หลับได้นอน ก่อนหน้านี้ที่ตื่นขึ้นมาเป็นเพราะเสียงรบกวนของประทัดทำให้ต้องตื่น แต่คนก็ยังคงง่วงอยู่ ง่วงมากจริงๆ ขณะที่เพ็ญนีติ์คิดว่าตนเองกำลังจะหลับไปแล้วนั้น กลับได้กลิ่นของสบู่แชมพูหอมเบาๆลอยมา บวกกับมีผ้าเช็ดตัวนุ่มๆอยู่บนตัวของเธอ เสียงของปุริมเอ่ยขึ้นเบาๆ “ไปอาบน้ำเถอะ ห้องนั้นให้คุณนอน เดี๋ยวผมจะนอนโซฟาเอง” ทันใดนั้นเสียงทุ้มๆของชายหนุ่มก้องขึ้นมาในหูเธอ ทำให้ใจของเธอเริ่มเกิดการเคลื่อนไหว ค่อยๆพลิกตัวกลับไปมองตาม แสงไฟสลัวๆในห้องครัว สายตาของเธอไปหยุดอยู่ที่ร่างสูงของเขา เส้นผมของเขายังเปียกมีน้ำเกาะอยู่เลย หยดน้ำหยดกระเซ็น มองไปที่ใบหน้าหล่อคม ทรวงอก ยังไม่ถึงช่องท้อง เขาที่ปล่อยท่อนบนเปลือยเปล่ามีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวที่พันท่อนล่างไว้ กลับทำให้เขาดูมีเสน่ห์เย้ายวนชวนมีอารมณ์จริงๆ “ดูพอรึยัง?” ใบหน้านั้นยิ้มออกมา “หรือว่าจะให้ผมอุ้มคุณไปนอนที่เตียง?” น้อยนักที่จะมีผู้ชายพูดคำนี้ด้วยท่าทีที่ขี้เกียจแบบนี้ แต่เขากลับพูดด้วยทีท่าแบบนี้จริงๆ คำพูดของเขาทำให้เธอชะงักไป รีบกลับมานั่งลงอย่างรวดเร็ว หอมเอาผ้าเช็ดตัวรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไป เธออยากอาบน้ำ ต้องอาบน้ำ เธอคิดถึงที่นอน เขาพูดเองนี่นาว่าจะนอนโซฟา แต่มันก็ต้องเป็นเช่นนั้นอยู่แล้วแหละ เพราะเธอเป็นแขกไง ไม่ใช่หรอ? เธอกำลังหาเหตุผลเข้าข้างตัวเอง แค่ไม่ต้องนอนเตียงเดียวกับเขาก็พอแล้ว พอหนีเข้าไปในห้องน้ำ สิ่งแรกที่ทำคือหันมาล๊อกประตู เปิดน้ำฝักบัวอาบ ความเหนียวเหนอะหนะกลิ่นเหล้าต่างๆค่อยๆหายไปกับน้ำที่ไหลรดลงมา ในที่สุดก็สบายไปทั้งตัวแล้ว อาบอยู่นานจนกว่าจะเสร็จ กว่าจะสบายตัวได้ขนาดนี้ หนึ่งวันสองคืนนี้เรียกได้ว่าหนักหนาเสียเหลือเกิน อ้อยและส้ม ทำร้ายเธอซะแล้ว ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เธอจะต้องเผชิญหน้ากับปุริมแล้ว “เฮ้ย...” ทันใดนั้นพึ่งนึกถึงนภนต์ขึ้นได้ เธอตกใจร้องขึ้นเสียงดัง หาเด็กๆเจอแล้ว จนถึงตอนนี้เธอยังไม่โทรศัพท์ไปบอกนภนต์ มัวแต่ฉลองปีใหม่ มัวแต่เล่นกับลูก ลืมโทรบอกเลย ข้างนอกประตูมีเสียงหนึ่งดังแทรกเข้ามา ปุริมร้องขึ้นอย่างเป็นห่วง “เพ็ญนีติ์ คุณเป็นอะไร?” เขานึกว่าเธอหกล้ม แต่พอมองจากกระเบื้องกระจกใสขุ่นในห้องน้ำ ภาพบนกระจกกลับสะท้อนภาพคนที่ยื่นอยู่ไม่ได้ล้มใดๆ เห็นเธอยังดีๆไม่เป็นอะไร เขาจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก “ไม่มีอะไร ไม่มีอะไร คุณออกไปก่อน ไม่ต้องเข้ามา” เขามองไปที่เงาดำของชายที่อยู่ข้างนอกอย่างตื่นตระหนก แม้ว่าจะมีกระจกใสขุ่นกั้นไว้อยู่ แต่ละฝ่ายจะมองเห็นกันได้ไม่ชัด แต่เธอยังมีความรู้สึกว่าฝ่ายตรงข้ามมองเห็นร่างเธอได้ชัดเจนหมด จนทำให้เธอไม่วางใจต้องเอามือปิดที่ลับตรงนั้นของตัวเองไว้ หัวใจกลับยังเต้นไม่เป็นจังหวะอยู่ น่าโมโหปุริมจริงๆ ยังจะมาถามต่ออีก จริงๆแล้ว เธอว่าจะรอให้อาบน้ำเสร็จก่อน ออกไปค่อยโทรหานภนต์ แต่ตอนนี้ เขายังคงถามต่อเรื่อยๆ หากไม่บอกเหตุการณ์ไป คงจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ดังนั้น เพ็ญนีติ์กระแอ้มลูกคอเบาๆ เอ่ยขึ้น “เรื่องที่หาเด็กๆเจอแล้ว ฉันลืมส่งข่าวนภนต์เลย ปานนี้เขาอาจจะกำลังหาเด็กๆอยู่ก็ได้ เดี๋ยวฉันเช็ดตัวเสร็จ อีกสักหน่อยจะออกไปโทรศัพท์หาเขาเอง” เสียงของปุริมที่อยู่นอกประตูดังขึ้น “ไม่ต้องหรอ ให้ผมโทรหาเขาให้ไหม” “ปุริม เดี๋ยวฉันโทรเอง” เขานี่ช่างแปลกประหลาดจริงๆ นภนต์เป็นเพื่อนของฉัน เธอว่าเขาไม่จำเป็นต้องเป็นเดือดเป็นร้อนขนาดนี้ “เอางั้นก็ได้ งั้นเดี๋ยวผมไปหยิบโทรศัพท์ให้คุณ เที่ยงคืนวันปีใหม่แบบนี้ อย่าให้เขาต้องทรมานหาต่อไปเลย” เขาพูดจบเงาดำๆข้างหลังกระจกนั้นก็หายไป เพ็ญนีติ์รีบเช็ดตัวจนเสร็จ ผ้าเช็ดตัวยังไม่ทันพันเรียบร้อย ประตูห้องน้ำก็ถูกเคาะดังขึ้น “เพ็ญนีติ์ โทรศัพท์อยู่นี่แล้ว” มองดูเงาดำๆที่อยู่นอกประตู ในมือถือเหมือนถืออะไรซักอย่าง ในขณะที่เธอกำลังครุ่นคิดพิจารณาอยู่นั้น ปุริมเอ่ยขึ้นอย่างร้อนรนอีกว่า “เพ็ญนีติ์ คุณได้ยินผมไหม รีบโทรกลับไปเร็ว ปานนี้นายนภนต์นั้นอาจกำลังตามหาอยู่ข้างนอกก็ได้” ประโยคนี้ของเขาทำให้เธอรีบปลดล๊อกประตูห้องน้ำ จากนั้นยื่นมือข้างหนึ่งออกไป “ส่งมาให้ฉัน” มือถือเย็นๆถูกวางลงในมือเธอ เธอที่อยู่ในห้องน้ำรีบร้อนจะยังไม่ทันได้ใส่อะไร วินาที่ที่มือทั้งคู่สัมผัสกัน ราวกับถูกไฟช็อตให้สั้นไปทั้งตัว รีบดึงมือตัวเองกลับคืนมา “ปั้ง” จากนั้นรีบปิดประตู เป็นเพราะเธอใช้แรงเยอะจนเกินไป ประตูห้องน้ำแง้มออกมาแล้ว ขณะที่เอนตัวรีบปิดประตูนั้น ชายข้างนอกขณะที่กำลังพิงผนังอยู่ด้านนอก ภาพนี้ทำให้เขานึกถึงครั้งแรกที่เธอมาที่คอนโดแห่งนี้ในคืนนั้น ร้อนรุ่มไปทั้งตัว รู้สึกได้ว่าเหงื่อไหลท่วมตัว “ปุริม ออกไป” ครึ่งปีมาแล้ว เขาไม่เคยคิดว่าจะต้องมาอยู่กับเขาในสถานการณ์เช่นนี้อีก ทำให้เธอได้ยินเสียงหัวใจตัวเองที่เต้นตุ๊บๆขึ้น เรือนร่างอันงดงามของปุริม นัยน์ตาดำคมของเขาชะงักไปเมื่อเห็นเธอ “ผมไปนอนแล้วนะ” แบบนี้ราวกับเขาได้เห็น ดอกไม้สักดอก ยอดหญ้าซักยอด เท่านั้นเอง มองเสร็จก็จากไป เพ็ญนีติ์ตั้งสติได้ รีบปิดประตูอีกครั้งอย่างร้อนรน กดล็อกประตู พิงตัวลงที่ประตู ค่อยๆบิดๆหมุนๆ น้ำจากฝักบัวไหลลงมาไม่หยุด ทำให้เธอตกใจ ถึงพึ่งนึกได้ว่าในมือตัวเองมีโทรศัพท์ ดีที่น้ำไม่ได้โดนโทรศัพท์ ขยับตัวหลบน้ำสักหน่อย ครู่ต่อมาค่อยต่อสายหานภนต์ “สวัสดีปีใหม่” “ได้ข่าวพวกเด็กๆแล้วหรอ?” ทั้งสองเกือบจะเอ่ยออกมาพร้อมๆกัน คนหนึ่งอวยพร อีกคนรีบร้อนถาม เพ็ญนีติ์รู้สึกผิดมาก “นภนต์ พบอ้อยและส้มแล้วนะ” “จริงหรอ?” เสียงจากปลายสายสื่อมาว่าโล่งอดไปที “เจอก็ดีแล้วเพ็ญนีติ์ ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน ฉันอยากเจอเธอ และก็เด็กๆด้วย” พูดด้วยท่าทีที่ดีใจมาก เสียงของนภนต์ที่สะท้อนก้องห้องน้ำบวกกับเสียงของน้ำผสานกัน ทำให้เพ็ญนีติ์สั่นไปชั่วขณะ ตอนนี้เธอไปพบเขาได้ไหม? “นภนต์ ฉัน...” คำพูดที่ติดขัดของเธอทำให้นภนต์ที่ถือสายอยู่ไอ้ยินอะไรเลือนรางล่องลอยเหลือเกิน เสียงน้ำแม้ว่าจะไม่ดังมากนัก แต่เสียงน้ำไหลปรอยๆนั้นดังชัดเจน
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 146 ล่องลอย
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A