ตอนที่ 90 ไม่รีบ ไม่รีบ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 90 ไม่รีบ ไม่รีบ
ตอนที่ 90 ไม่รีบ ไม่รีบ  สิ่งนี้ทำให้จรีภรณ์รู้สึกกระวนกระวายอยู่ทั้งคืนกับการส่งตะวันลูกชายของเธอไปโรงพยาบาล แต่ไม่รู้ว่าทำไมไข้ขึ้นสูงไม่หยุดเลย จรีภรณ์กลัวมากจนต้องเดินไปร้องไห้ที่ระเบียง ตอนที่รอชนุตต์มารับ จรีภรณ์ก็ร้องไห้จนตาแดง ชนุตต์เองก็รู้สึกปวดร้าวและโอบอุ้มเธอเข้ามาให้อ้อมกอดหลังจากนั้นก็ไปถึงโรงพยาบาลและพากันระดมผู้เชี่ยวชาญมาตรวจเลือดตะวัน  รอจนรุ่งสว่างคุณหมอก็เอาผลตรวจมาและพูดว่าตะวันเป็นโรคป่วยเรื้อรัง ตอนนี้แบคทีเรียได้เข้าสู่กระแสเลือดและกำลังแพร่พันธ์ุในกระแสเลือดและได้ปล่อยเชื้อโรคออกมา และก่อให้เกิดโรคเรื้อรัง “นี่คือโรคอะไร? แค่ป่วยเรื้อรังหรอ” ชนุตต์ถามด้วยอาการที่มีลางสังหรณ์ว่าไม่ดี คุณหมอมองเห็นชนุตต์ด้วยท่าทางที่เคร่งขรึมและจริงจังและใช้มือเช็ดเหงื่อที่ไหลออกมาพร้อมกั ตอน่าทางที่ทำตัวไม่ถูกและพูดออกมาสามคำว่า “เป็นโรคโลหิตจาง”  “อะไรนะ” ชนุตต์ยืนขึ้นด้วยความตกใจ เขาไม่คิดว่ามันจะร้ายแรงขนาดนี้ เขามองไปที่จรีภรณ์ พบว่าผู้หญิงคนนี้ในเวลานี้ถูกทำให้ให้กลัวจนเสียสติ “ถ้าไม่รีบรักษา ก็อาจจะเป็นสาเหตุทำให้อวัยวะทั้งหมดล้มเหลว” คุณหมอได้มากระซิบข้างหูของจิรภาส “รักษา รักษาเลย” ชนุตต์รีบตอบหมอ และหันมาโอบกอดจรีภรณ์ที่ร้องไห้ออกมาอย่างไม่มีเสียง  และสุดท้ายเมื่อได้รู้ว่าโรคนี้เกิดจากการลักพาตัว จรีภรณ์ก็รู้สึกเจ็บปวดเข้ามาถึงกระดูก เหตุผลที่เธอรู้เกี่ยวกับเหตุผลการเจ็บป่วยของตะวันคือเนื่องจากในระหว่างการรักษาแพทย์ได้ทำการตรวจสอบรายละเอียดแล้วเมื่อแพทย์ทราบว่า ตะวันมีไข้แล้วเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาบอกซูโม่เกี่ยวกับเรื่องนั้น โรคในช่วงเวลานั้น เพียงแต่ตอนนั้นที่คิดว่ามันเป็นไข้ธรรมดา ไม่ได้มีอะไรและไม่ต้องรีบรักษาอะไร ดังนั้นจึงเป็นสาเหตุทำให้ตอนนี้ตะวันมีโรคที่หนักขึ้น เขาอยู่ในสภาวะเสี่ยงมากๆ ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป มีหวังอวัยวะของร่างกายถูกพังทำลายแน่ๆ จรีภรณ์มองหมอด้วยสีหน้าที่จริงจังและก็เกิดอาการเวียนหัว เธอจำได้อย่างชัดเจนว่า หลังจากที่ตะวันโดนจับนั้น ก็ถูกพามาส่งที่โรงพยาบาล ตอนนั้นเธอก็รู้สึกแปลกๆ ตอนที่ตะวันถูกพามา ทำไมจะต้องมาส่งตะวันที่โรงพยาบาล เห็นได้ชัดเจนว่า เวลานี้ พวกเขาได้ทำอะไรบางอย่างกับลูกชายของเธอแล้ว พอคิดถึงตรงนี้ จรีภรณ์ก็กัดฟันพูดด้วยความโมโห ความเกลียดชังนั้นวิ่งผ่านเข้ามาในหัวของเธอ เธอไม่คิดว่านวิยาจะใจร้ายได้ขนาดนี้ แม้แต่ลูกชายของเธอ ก็ไม่ปล่อย ก่อนที่เธอจะเห็นสีหน้าตาไร้เดียงของลูกชายของเธอ เธอก็เกลียดมาก ทนไม่ได้ที่จะวิ่งเข้าไปฉีกออกเป็นชิ้นๆ   เธอสาบานไว้ว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับลูกชายของเธอ เธอไม่ปล่อยนวิยาไปแน่   การตรวจและการรักษาผ่านมาแล้วสามวัน อาการของตะวันก็ค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆเพราะได้มีการยับยั้งเชื้อแบคทีเรียอยู่ หลังจากผ่านไปไม่ถึงสองชั่วโมง ตะวันก็มีไข้ขึ้นสูงอีก สิ่งนี้ทำให้หัวใจของจรีภรณ์นั้นไม่อยู่กับเนื้อกับตัวและในขณะเดียวกันก็เกลียดนวอยาอย่างมาก ดังนั้นประมาณสองสามวันไม่นาน จรีภรณ์ก็รู้สึกถูกทรมาน ตอนกลางคืนวันที่สองอยู่ดีๆตะวันก็ลืมตาขึ้นมา ไข้ก็ลดลงไป จรีภรณ์ดีใจอย่างมาที่เห็นว่าตะวันไม่ได้รู้สึกไม่สบายตรงไหนเลย   หลังจากที่จรีภรณ์ได้ยินเธอก็กลับบ้านไปทำมาให้ตะวันและที่นี่ก็มีเทพวีช่วยดูแล และในขณะเดียวกัน สื่อต่างๆก็ออกข่าวเรื่องการแต่งงานของจิรภาสและชญาภา อดสงสัยไม่ได้ว่าเรื่องนี้ตอนนี้เป็นพาดหัวข่าวไปแล้ว สามารถพูดได้ว่าไม่มีใครที่ไม่รู้   ในโทรทัศน์ จิรภาสอยู่ในชุดสูทสีขาว ด้านขวามือก็เป็นชญาภาอยู่ในชุดพิธีการสีขาว บนในหน้าก็มีรอยยิ้ม ทั้งคู่ดูเหมาะสมกันดีมาก ทั้งคู่ต่างมีใจให้กัน ทั้งนวิยาเองก็ยืนยิ้มอยู่ตรงนั้นยินดีกับชญาภา รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอนั้นแลดูมีคว่ามสุข เห็นท่าทางแล้ว เธอเองก็ดูเหมือนว่าจะพอใจพวกๆกับการที่เธอได้แต่งงานกับจิรภาส   หลังจากที่วันเวลาของการแต่งงานผ่านไปได้สองเดือน ได้ยินมาว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่มีความหมายซ่อนอยู่ ช่วงเวลานี้ก็ได้แต่คิดอยากจะตบลงไปบนใบหน้าของชญาภา เพราะวันนี้เป็นวันที่เธอถูกไล่ออกจากบ้าน จิรภาส  จรีภรณ์กำช้อนในมืออย่างแน่น หัวใจก็สั่นคลอน จิรถาสยิ้มและหล่อเหลาบนทีวีทำให้หัวใจของเธอนั้นปวดร้าว  โดยเฉพาะท่าทีอาการความพึงพอใจของนวิยา เธอก็รู้สึกเกลียดมาก หญิงชายสันดานเลวสองคนนี้กำลังมีความสุข แต่ลูกชายของเขากลับมาเป็นทุกข์ทรมาน รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลและยังมีคุณนายนวิยา คุณนายใจดำคนนี้ จริงๆแล้วก็กล้าที่จะทำกับลูกชายของเธอ โอเค ดี จรีภรณ์คิดอยู่ในใจ แต่ก่อน เธอไม่เคยจะหาเรื่องใคร นั้นเพราะว่าเธอไม่อยากจะทะเลาะตบตีกับคนแบบนี้ แต่ตอนนี้เธออยากเจ็บปวด ทำไมเธอไม่ต่อสู้ ทำไมไม่คว้ามัน นั่นคือสิ่งที่ทำไมเธอไม่ควรทำ? เป็นเพราะความอ่อนแอของเธอจึงทำให้ลูกชายของเธอจะต้องเผชิญกับความย่ำแย่แบบนี้  เริ่มตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป เธอต้องการเอาคืนทุกอย่างที่เป็นของเธอ เธอจะไม่ยอมให้คนอื่นดีกว่าเธอ จะไม่ปล่อยนวิยาหรือใครก็ตามที่เคยทำร้ายพวกเธอ เธอจะไม่ยอมปล่อย ขณะที่ตะวันกำลังกินข้าว เขาก็รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของแม่เขาและสายตาของเธอมองไปที่โทรทัศน์ ลูกจึงถามว่า : “แม่ คุณลุงไม่ได้อยากแต่งงานหรอ” “อืม” จรีภรณ์ตอบกลับ พร้อมกับก้มหัวลงและป้อนข้าวตะวันต่อ ไม่กี่วันที่ผ่านมาหนุ่มน้อยคนนี้ไข้ขึ้นสูงไม่หยุด แม้กระทั่งข้าวก็ไม่กิน ตอนนี้กลับดีขึ้นมาก ยอมกินข้าวมากขึ้น จรีภรณ์จึงรีบเข้าครั้วเพื่อทำกับข้าวที่เขาชอบด้วยตัวเอง “คุณปู่ไม่ได้เป็นพ่อของตะวันหรอ แล้วทำไมต้องไปแต่งงานกับคนอื่น เขาไม่ต้องการพวกเราแล้วหรอ” ตะวันเงยหน้าขึ้นถามจรีภรณ์และมองด้วยสายตาที่หมดหวัง ในใจของจรีภรณ์เหมือนถูกดึงออกมา คำพูดของตะวันทำให้จรีภรณ์ไม่รู็ว่าจะตอบอย่างไร ครั้งที่แล้วชนุตต์ก็เคยพูดว่าอยากจะเป็นพ่อของตะวัน แต่ก็เลิกรากับเขาไป หลังจากนั้นก็เป็นจิรภาสอีก เขารู้ว่าตะวันรู้สึกผิดหวัง จรีภรณ์จึงเข้าไปโอบกอดเขาอย่างแนบแน่น   ในขณะเดียวกันเมื่อเทพวีรู้ข่าว เธอก็รอหลังจากตะวันหลับเธอก็ด่าว่า : “ฉันโมโหมาก ไอจิรภาสคนนี้มันตาบอดจริงๆ แท้ที่จริงมันก็อยากจะแต่งงานกับอีลูกชู้คนนี้นี่เอง พวกมันทำเรื่องไร้ศีลธรรม หลังจากนี้ไม่มีทางที่มันจะมีลูก ไอเลวระยำ ” หลังจากพูดจบจรีภรณ์ก็นิ่ง และเธอก็ถามออกมาอย่างกังวลใจว่า “จรีภรณ์ เธอไม่เป็นอะไรเลยหรอ” “ไม่ ฉันตัดใจจากเขาไปนานละ ฉันจะไปรู้สึกเศร้าหรือเสียใจทำไม ” จรีภรณ์พูดพร้อมกับมองไปที่จิรภาสในทีวีอย่างเยือกเย็น “แต่ฉันว่ามันไม่คุ้มกับเธอเลยนะจรีภรณ์ ถ้าไม่ใช่อีลูกชู้คนนั้น เธอก็จะไม่ตกต่ำแบบนี้ ถ้าไม่มีอีนั้นในตอนนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างตอนนี้ก็จะเป็นของเธอ จรีภรณ์เธอเลือกที่จะยอมแพ้แล้วหรอ” อารมณ์และปากที่จัดของเทพวีนั้นสมเหตุสมผลกว่าที่คิด ทำไมเธอถึงไม่คิดว่าหลังจากที่จิรภาสรู้สถานะของชญาภาแล้วยังจะยอมแต่งงานไหม หรือจริงๆแล้วเขาไม่รู้ว่าเขาได้ทำให้จรีภรณ์เสียใจมากพอแล้ว เธอคิดว่าจิรภาสจะเปลี่ยนเป็นคนที่ดีขึ้น แต่มันก็แค่ชั่วขณะหนึ่งและเขาได้แต่งงานกับคนอื่นไปแล้วสิ่งที่เขาขอให้เธอให้อภัยครั้งสุดท้ายที่จะแต่งงานกับเธอนั่นคือสิ่งที่น่ารังเกียจ ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าที่ตะวันเป็นเช่นนี้เพราะนวิยา เธอรู้สึกโกรธมากขึ้นดังนั้นเธอจึงดุด่าไม่หยุด “เฮ้อ คนเลวจริงๆ หญิงร้ายชายเลวก็เหมาะสมกันดี จรีภรณ์ ถ้าฉันเป็นเธอนะฉันจะไปป่วนงานแต่งงานนี้ ทำให้ทุกคนรู้ว่าอีลูกเมียน้อยคนนี้ยังมีแม่ของมันที่หน้าด้าน หน้าไม่อาย ลูกที่เกิดออกมาจากเมียน้อยก็ยังคือเมียน้อย และไม่ว่าจะเกิดมาตอนไหนก็เป็นลูกเมียน้อยอยู่ดี ครอบครัวทั้งหมดเป็นของอีเมียน้อย ทำให้พวกมันไม่มีหน้าอยู่ในเมืองซู ใช่แล้ว ยังมีคุณนายนวิยาอีก อีคุณนายแม่มดใจร้าย ใจมาร และยังมีจิรภาส ผู้ชายมักมาก ” เทพวียิ่งดูยิ่งโมโห โดยเฉพาะตอนเห็นจิรภาสโอบกอดชญาภา ทำให้ยิ่งดุไปยิ่งโมโหไป เห็นท่าทีของเทพวีแล้ว จรีภรณ์ก้ไม่ได้พูดอะไรและดูสองคนนั้นบนทีวี ตอนนี้ ชญาภากำลังเป็นนกน้อยที่ติดตามข้างๆจิรภาส ยิ้มด้วยอาการดีใจ รอยยิ้มนั้นเป็นรอยยิ้มแห่งพลังของเธอ “ไม่รีบ ไม่รีบ”จรีภรณ์ยิ้มที่มุมปากและค่อยๆพูดสี่คำออกมาจากริมฝีปาก แต่ในตาก็มีทั้งความเกลียดชังและความเยือกเย็น   พอฟังคำพูดของจรีภรณ์แล้ว เทพวีก็ตกใจและหันมามองเธอ
已经是最新一章了
加载中