#บทที่6 สุราบาวอง(ลูกค้าดื่มเหล้าแต่ไม่มีเงินจ่าย)   1/    
已经是第一章了
#บทที่6 สุราบาวอง(ลูกค้าดื่มเหล้าแต่ไม่มีเงินจ่าย)
บ๗ที่6 สุราบาวอง(ลูกค้าดื่มเหล้าแต่ไม่มีเงินจ่าย) “ผุชซ์ คุณแม่นี่จินตนาการเก่งจริง ๆ ”จางเรยหลุดขำเพราะแม่ พูดตรง ๆ ว่า:“เงินพวกนี้ฉันได้มาจากลูกสะใภ้ของแม่ให้ผมหมดเลย” “ลูกสะใภ้ ซูชิงไม่ใช่ว่า……”แม่จางเรยสตั๊น จางเรยพูดว่า:“ซูชิงจะคู่ควรเป็นลูกสะใภ้แม่ได้ยังไง ผมหมายถึงฉิงหวันหยู ท่านยังจำได้ไหม ตอนเด็กที่มากินข้าวบ้านเราบ่อยๆคนนั้น ” “อ้อ ! หล่อนไม่ใช่ว่าเกิดบ้านประสบธุรกิจล้ม ย้ายบ้านทั้งบ้าน พวกแกยังติดต่อกันไว้อยู่หรอ?”แม่จางเรยพูดถอนหายใจ:“เด็กคนนั้นชอบมาก ตอนเด็กแกวิ่งตามหล่อนทุกวัน โตมาจะแต่งงานกับหล่อนแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าผ่านไปหลายปีขนาดนี้ พวกแกยังสานติดต่อกันอยู่” “ไม่ใช่แค่สานติดต่อกันเฉย ๆ เราสองคนยังจดทะเบียนสมรสแล้ว อีก3วันจะจัดงานแต่ง วันนี้ผมกลับมาเพื่อจะมาเล่าเรื่องนี้โดยตรงเลย” “จริงหรอ?”ข่าวดีติดกันแบบนี้ ทำให้แม่จางเรยดีใจจนหน้าแดง จางเรยตกใจรีบจับยาต้านหัวใจวายมาให้คุณแม่ หลังจากจัดการแม่จางเรยเรียบร้อย จางเรยเดินไปห้องนอนชั้น2 ดูการดีไซน์ไปอึ้งไป อย่าว่าเลยว่าแม่และไอ่ป้าแก่นั้นจะไม่เชื่อ ขนาดเขาเองยังรู้สึกเหมือนฝันอยู่เลย ณ เวลานี้เสียงหุ่นยนต์ผู้หญิงนั้นดังขึ้นในหูอีก:“ค่าบุญคุณที่ฝากไว้เข้าบัญชีแล้ว ซื้อบ้านให้คุณแม่+200” “อะไรนะ?” เสียงนี้เคยดังขึ้นรอบนึง ตอนนั้นจางเรยไม่ได้ตั้งใจฟัง แต่ตอนนี้กลับได้ยินชัดมาก ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี้ ต้องเกี่ยวพันกับระบบอะไรนี้แน่นอน เพึ้งเปิดระบบเสร็จ ฉิงหวันหยูก็ปรากฏตัวมาช่วยทันที เขาอยากรู้ปริศนามาก ๆ อยากถามดูว่าตกลงระบบนี้เป็นอะไร เสียงผู้หญิงคนนั้นเงียบไป เหมือนจะไม่อ่อนแล้ว อะไรเนี้ย จางเรยไม่ได้รับเสียงตอบรับ เลยกลับไปนอนรอที่ห้องนอน ลืมตานอนไม่หลับ เลยจับโทรศัพท์มากวนฉิงหวันหยูเล่น:“เมียจ๋า อยู่มั้ย?” “อยู่ วันนี้คุณสามีประพฤติตัวดีมาก”ฉิงหวันหยูตอบกลับไวมาก แถมยังส่งรูปคนสวยหลังอาบน้ำเสร็จ ฉิงหวันหยูใส่เสื้อคลุมอาบน้ำ ผมยาวสีดำน้ำตาลสนิทเปีบกชื้นพาดไว้ที่หัวไหล่ ในความสดใสนี้ก็ปนอยู่กับความเซ็กซี่ไว้ นี่มันนางฟ้ารวมร่างกับนางมารร้ายชัด ๆ ไม่มีผู้ชายคนไหนที่จะปฎิเสธความยุยั่วแบบนี้ได้ มีแคปชั่นใต้ภาพว่า:“ฉันเพิ่งอาบน้ำเสร็จ คุณสามีสู้ ๆ นะ ใช้5ล้านให้หมด พวกเราก็ได้แต่งงานกันแล้ว” “ทำไมต้องใช้เงินหมดถึงจะแต่งงานได้?เธอจะจดทะเบียนสมรสกับเราจริงๆเหรอ” จางเรยหัวใจเต้นแรงแล้วถาม ฉิงหวันหยูส่งอีกรูปมา เป็นสมุดเล่มสีแดงสองเล่ม ข้างในเป็นรูปคู่จางเรยกับฉิงหวันหยูที่ถ่ายภาพพื้นหลังเป็นสีแดงติดไว้ที่ใบทะเบียนสมรส เอาของปลอมมาทดแทนเป็นจริงมาก จางเรยพูดถอนหายใจจากใจ:มีตังค์นี่อยากทำอะไรก็ได้จริง ๆ เขาไม่เคยถ่ายรูปคู่แบบนี้กับฉิงหวันหยูแน่นอน โดยเฉพาะตอนโตยิ่งไม่เคย นี่เป็นการพบเจอครั้งแรก แต่กลับทำเสร็จภายในวันเดียว “ทำไมเธออยากแต่งงานกับเรา?”จางเรยถามอีก เขามีคำถามมากมายที่อยากถามภรรยาตัวเอง ฉิงหวันหยูส่งสติ๊กเกอร์กวนเล่นและพูดว่า:“เรื่องนี้นายไม่ต้องสนใจ หลัง7วัน จะเฉลยปรืศนาทั้งหมด แต่ก่อนหน้านี้ นายตั้งใจใช้จ่ายเงินอย่างเดียวก็พอแล้ว” แค่เวลาวันเดียวก็จ่ายไปแล้ว4ล้าน2แสน อีก8แสนที่เหลือก็คงไม่ใช่ปัญหา จางเรยวางแผนในใจเรียบร้อย ซื้อบ้านเสร็จต่อไปจะซื้อรถ แต่ว่ารถเป็นวัสดุสิ้นเปลือง ซื้อแพงไม่ได้ ยังมีงานแต่ง จากนี้จะแต่งงานแล้ว จัดโต๊ะเลี้ยงอะไรก็ต้องคำนวณเข้าไป ถึงแม้เงินที่ออกเป็นเงินของฉิงหวันหยูก็ตาม แต่แต่งงานกับหล่อนก็ต้องให้ของที่ดีที่สุดสิ จางเรยวางแผนเต็มไว้ในใจ เริ่มโงมง่วง เสียงริงโทนโทรศัพท์ดังขึ้นพอดีในตอนนี้ เป็นสายโทรจากเพื่อนสนิทจางเรย หลิวเฮ่า จางเรยไม่ดูชื่อคนโทรก็กดรับสาย ฝั่งนู้นกลับเป็นเสียงของหวางเผิง:“เด็กเนิร์ดเอ้ย เพื่อนสนิทแกกำลังมาดื่มเหล้ากลับไม่มีเงินจ่ายที่บาร์ ทำไงดี แกจะมาช่วยแกหรือให้ลุงยามจัดการหลิวเฮ่า?แกตัดสินใจเอาเอง” จางเรยตื่นขึ้นมาทันที:“พวกแกอยู่ไหน?” “โจวบายี่แถวเจ”หวางเผิงหัวเราะเยาะบอกพิกัดออกมาแล้วกดวางสาย จางเรยรู้จักดีหลิวเฮ่าเป็นคนยังไง ซื้อสัตย์รักเพื่อน แต่ก็ยากจนเหมือนเขา สถานที่ใช้จ่ายสูงอย่างบาร์เขาๆม่ๆปแน่นอน ดูออกเลยว่าโดนหวางเผิงแกล้ง จางเรยใส่เสื้ออย่างไว เรียกรถรีบไปโจวบายี่แถวเจ ที่นั่นเป็นที่เศรษฐกิจทำเลทองในค่ำคืน เป็นที่ๆจะมีเศรษฐบุตรไปกัน ราคาขวดเหล้าขวดเดียวในนั้นต่ำสุดก็หลักร้อย หรือไม่ก็หลักหมื่น จางเรยไปตามโลเคชั่นที่หวางเผิงบอก ขรึมว่าพิกัดที่พวกเขาอยู่เป็นบาร์ที่หรูหราแพงสุดในซอย! “โอ้โห นี่เป็นเด็กเนิร์ดที่มาช้วยเพื่อนนี่เอง!”เป็นห้องส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุด มีเพื่อนพวกที่ชอบอยู่กับหวางเผิง ระหว่างนั้นก็มีลูกเศรษฐบุตรเล่นกันสนุกสนานอยู่ แต่ละคนตั้งหน้าตั้งตานั่งอยู่บนโซฟา หลิวเฮ่ากอดหัวนั่งยองในมุมห้องส่วนตัว แว่นแตกราวหมด เห็นจางเรยมาถึงรีบตะโกนว่า:“ไม่ต้องสนฉัน พวกเขาคนเยอะ แกรีบกลับเร็ว!” “รักเพื่อนจัง รักเพื่อนก็ไม่ควรดื่มเหล้าแต่ไม่มีเงินจ่าย ใช้บริการแล้วไม่จ่ายเงินนี่หมายความว่าไง?” “ใช่ คนอนาถายากจนอย่างแกยังมีหน้ามาใช้บริการที่แบบนี่อีก”ลูกเศรษฐบุตรอื่นพูดตาม จางเรยเข้าห้องพยุงหลิวเฮ่าขึ้นมาทันที ถามว่า:“เกิดอะไรขึ้น?” “พวกเขาอยากมาถามว่าแกเป็นอะไรกับฉิงหวันหยู ไม่เชื่อว่าฉิงหวันหยูเป็นแฟนแก เลยถามขู่ฉัน ฉันไม่ยอมบอกพวกเขาเลยพาฉันมาที่นี่ มอมเหล้าฉันแล้วยังให้ฉันออกเงิน…… ” หลิวเฮ่าดูออกว่าถูกตบตีมา ขอบตาเขียวไปข้างเดียว พูดอย่างโกรธแค้น จางเรยเริ่มรู้สึกโมโหโกรธ พูดว่า:“แกมีอะไรก็มาลงที่ฉัน อย่าไปยุ่งเพื่อนฉัน” “ดีมาก ฉันก็ชอบความหัวแข็งของเด็กเนิร์ดแหละ”ดูออกว่าหวางเผิงมาเพื่อแก้แค้นความละอายตอนกลางวัน ปรบมือเวลานี้ ผลักเหล้าที่วางอยู่ตรงหน้า:“แกดื่มเหล้านี้ให้หมด เรื่องนี้ก็ถือว่าปล่อยไปเลย” หลิวเฮ่ารีบบอกว่า:“ห้ามดื่มนะ เหล้านี้ขวดละ3หมื่นแปดพัน แต่แกแตะไปคำนึง เขาก็จะให้แกออกเงินครึ่งนึง อย่าโดนเขาหลอกเด็ดขาด” “ฉันไม่ดื่มเหล้านี้แน่นอน”จางเรยกวาดสายตาไปที่ขวดเหล้า ดวงตาแอบยิ้มเย็นชา:“แกอยากจบเรื่องนี้ จะให้ฉันดื่มเหล้าคนเดียวได้ไง แกก็ต้องดื่มกับฉันสิ” “ได้สิ วันนี้ลูกพี่จะเอาใจแก”หวางเผิงหัวเราะเยาะ เงินพวกนี้ เขาไม่แคร์หรอก เขาก็แค่อยากแกล้งจางเรย แค่จางเรยดื่มไปคำนำ พอถึงเวลาชำระเงินก็จะหารกับจางเรย เขาจะทำอะไรไม่ได้แน่นอน! “แกเป็นคนพูดเองนะ”จางเรยยิ่งตลก เขาดีดนิ้ว เรียกพนักงานมา:“เอาเมนูมา เหล้าที่แพงที่สุดของพวกแกเป็นอะไร” “กรีนวิช ขวดละ5หมื่น8พัน” “เอานี่แหละ”จางเรยพูดอย่างมั่นใจ หวางเผิงสงสัย วันนี้ฉิงหวันหยูมาช่วยเป็นหน้าเป็นตาให้ก็เข้าใจ เพราะถือว่าพวกเขาเคยรู้จักกัน จะให้มองหน้าไม่ติดกันก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ปกติจางเรยไม่มีเงิน วันนี้อยู่ดี ๆ ก็ใช้จ่ายประมาทแบบนี้หมายความว่าไง? หวางเผิงก็ไม่อยากขายหน้าต่อหน้าเศรษฐบุตรและเพื่อนร่วมห้อง เลยแกล้งทำหน้าทำตาไม่กลัว 
已经是最新一章了
加载中