บทที่ 14 ทำในสิ่งที่ถูกต้อง   1/    
已经是第一章了
บทที่ 14 ทำในสิ่งที่ถูกต้อง
บ๗ที่ 14 ทำในสิ่งที่ถูกต้อง “เสาปิงยู่ ไม่ต้องให้พ่อเธอจ่ายเงินแล้ว เรื่องเงินฉันจะช่วยคุณจ่าย” จางเรยไม่คุ้นเคยกับลีลาสไตล์ของผู้ชายคนนี้ เขาเดินไปข้างหน้าเสาปิงยู่ แล้วขัดขวางการคุยโทรศัพท์ของเธอ เสาปิงยู่วางสาย สีหน้ามองจางเรยด้วยความประหลาดใจ “คุณพูดอะไร? คุณช่วยจ่ายให้ฉันเหรอ? นี่.....นี่มันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน จางเรย คุณไม่ต้องยุ่งเรื่องของฉัน คุณไปเสียเถอะ” “เฮ้ย ไม่ไม่ไม่ สาวน้อย พ่อหนุ่มคนนี้เป็นเพื่อนร่วมเรียนของคุณใช่ไหม? ดูท่าทางของเขาจะมีใจให้คุณนะ ใครจะใจกว้างอย่างนี้จนยอมที่จะจ่ายหนึ่งหมื่นหยวนแทนคุณ ” ชายคนนั้นจ้องมองไปที่จางเรยตั้งแต่หัวจรดเท้า “เจ้าหนุ่ม ดูเหมือนคุณไม่ใช่คนมีเงิน คิดไม่ถึงว่าจะเป็นคนใจกว้าง ถ้าคุณจะจ่าย ก็ล้วงเงินออกมา หนึ่งหมื่นหยวน ห้ามขาดแม้แต่นิด” “จางเรย คุณอย่ามายุ่งเรื่องของฉัน คุณรีบไปซะ”เสาปิงยู่รู้สึกเป็นกังวล “เสาปิงยู่ เรื่องบางอย่างคุณก็ไม่เข้าใจ ถ้าฉันไปแล้ว มันไม่เพียงเกี่ยวกับการไม่ช่วยเหลือคุณเท่านั้น แต่ยังมีกรณีการโกงนักศึกษามหาวิทยาลัยอีกด้วย "” “คุณพูดอะไร?” เสาปิงยู่ไม่เข้าใจ จางเรยพูดต่อ “เขาขอให้คุณชดใช้หนึ่งหมื่นหยวน นี่เป็นการขู่กรรโชกที่ชัดเจน คุณรู้หรือไม่ว่าอุบัติเหตุเล็ก ๆ เช่นนี้ ปกติแล้วแค่สองร้อยหยวนก็สามารถแก้ไขปัญหาได้แล้ว” “อะไรนะ? สอง.....สองร้อยเหรอ?” เสาปิงยู่จ้องมองไปที่จางเรย ตอนนี้ สีหน้าของเจ้าของรถที่โดนเฉียวชนก็กลายเป็นสีหน้าโกรธแค้นทันที เขาชี้นิ้วไปที่จางเรยแล้วตะโกนลั่น “ไอ่หมอนี่ คุณกำลังพูดเรื่องไร?ฉันขู่กรรโชกเธออย่างนั้นเหรอ?” “หึหึ แล้วไม่ใช่หรือไง? กันชนรถของคุณใกล้จะหลุดแล้ว การเฉียวชนเล็กๆ คุณยังกล้าที่จะเรียกตั้งหนึ่งหมื่นหยวนเหรอ? ถ้าไม่ใช่การต้มตุ๋น แล้วมันคืออะไร?” “แม่ง ไอ่หมอนี่ ฉันจะบอกคุณให้ ว่าอย่ายุ่งเรื่องนี้จะดีกว่า ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าคุณซะ” “ต่อหน้าคนจำนวนมาก เจ้าของไม่เพียงขู่กรรโชก แต่ยังข่มขู่จางเรย” เมื่อเสาปิงยู่ได้ยินเขาพูดอย่างโหดเหี้ยม ในใจก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที เธอรีบพูดกับจางเรย “จางเรย คุณไม่ต้องยุ่งเรื่องนี้แล้ว รีบไปเถอะ ให้ฉันจัดการก็พอแล้ว” “ไม่ได้ คนอย่างเขา คุณยิ่งทำเฉย เขายิ่งได้ใจ คุณวางใจได้ สายตาของคนที่นี่กำลังจ้องมองตั้งมากมาย เขาไม่กล้าทำอะไรฉันหรอก ” “เฮ้ ในกระเป๋าของฉันมีเงินอยู่สองร้อยหยวนพอดี ถ้าคุณรู้ว่าต้องทำอย่างไร ก็เอาเงินไป ถ้าไม่อย่างนั้นฉันจะแจ้งความ” จางเรยไม่เกรงใจ เขาหยิบเงินสองร้อยหยวนแล้วยื่นไปข้างหน้า ขณะเดียวกันก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา “ให้ตายเถอะ สองร้อยหยวน คุณคิดว่าฉันจะเอาไปกินข้าวหรือไง ฉันจะบอกคุณว่าหนึ่งหมื่นหยวน สักหยวนก็ขาดไม่ได้ ถ้ายินยอมให้เงินก็รีบล้วงมันออกมา แต่ถ้าไม่ยินยอม วันนี้ฉันจะให้คุณได้ลิ้มรสความร้ายกาจ ” ในขณะที่พูด เจ้าของรถที่โดนชนก็เดินไปหยิบอาวุธที่อยู่ในรถ แสงสว่างของแท่งเหล็กเปล่งประกายออกมา ทำให้ผู้ชมรอบทิศเกิดความกลัว จนก้าวถอยหลังไป เดิมทีจางเรยคิดว่าเจ้าหมอนี่เห็นเสาปิงยู่เป็นเพียงเด็กสาว แล้วคิดจะมาข่มขู่กรรโชกเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าเขาจะมีอาวุธมาด้วย ดูเหมือนจะเป็นนักโทษ “จางเรย เขาหยิบอาวุธออกมาแล้ว คุณรีบหนีไปสิ” เสาปิงยู่ผลักจางเรยออกไป แล้วรีบพูดกับเจ้าของรถ “พี่ชาย คุณอย่าเพิ่งใจร้อน ฉันจะโทรหาพ่อให้เอาเงินมาให้ทันที” “เหอะ นับว่าคุณรู้ว่าต้องทำอย่างไร ไอ่หมอนี่ ตอนนี้คุณไสหัวไปได้แล้ว”อารมณ์ของผู้ชายนั้นเย็นลง แต่จางเรยยังคงไม่ยอม เรื่องวันนี้ เขาจัดการได้แน่นอน “ฉันจะบอกให้คุณรู้ ว่าต้อนนี้ฉันได้แจ้งความแล้ว ถ้าหากคุณยังต้มตุ๋นต่อไป อีกสักครู่ตำรวจมาถึง คุณก็จะไม่ได้เงิน”จางเรยพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย “แจ้งความเหรอ?” เจ้าของรถที่โดนเฉียวชนขมวดคิ้ว เขาตกตะลึงด้วยแรงกระตุ้น ทันใดนั้นเขาก็กัดฟันและแกว่งแท่งเหล็กในมือพุ่งเข้าไป “คุณกล้าแจ้งตำรวจ ฉันจะฆ่าคุณเดี๋ยวนี้” “ปี๊ป่อ ปี๊ป่อ ปี๊ป่อ” ขณะที่เจ้าของรถถือแท่งเหล็กเข้ามา เสียงหวอของรถตำรวจก็ดังขึ้นมาทันที จางเรยรู้สึกงุนงง ความจริงแล้วเขาไม่ได้แจ้งความ เพียงแค่คิดที่อยากจะทำให้เจ้าของรถตกใจกลัวก็เท่านั้น แต่คิดไม่ถึง ว่าตำรวจที่มาจะไม่ใช่ตำรวจจราจรที่จัดการกับอุบัติเหตุ แต่เป็นตำรวจอาชญากร “คุณทำอะไร? วางอาวุธในมือลงซะ เอามือทั้งสองจับศีรษะ ไม่อย่างนั้นฉันจะยิง”เดิมที่ตำรวจไม่ได้คิดที่จะจัดการจริงจังขนาดนี้ แต่เมื่อเห็นแท่งเหล็กในมือของเจ้าของรถ เขาก็ดึงปืนออกมาจากเอวทันที ไม่ว่าตอนนี้จะอยู่สถานที่ใด เมื่อเจอใครก็ตามที่พกพาอาวุธ ทั้งหมดล้วนถือได้ว่าไม่ปลอดภัย เจ้าของรถเผชิญหน้ากับตำรวจ แค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น เขาเห็นปากกระบอกปืนและโยนผู้ชายลงบนพื้นโดยไม่พูดอะไรสักคำ จึงรีบตะโกน “อย่ายิง อย่ายิง” “คุกเข่าลง เอามือยกไว้เหนือศีรษะ” ตำรวจยังคงสั่งต่อไป เจ้าของรถนั้นก็ทำตาม ไม่ช้าเจ้าของรถก็ถูกตำตรวจจับกุม “เกิดอะไรขึ้น?”ตำรวจนายหนึ่งเดินเข้ามาสอบถาม จางเรยเล่าเรื่องราวทั้งหมด จากนั้นก็พูดเรื่องที่ตัวเองสงสัยออกมา หลังจากที่ตำรวจเข้าใจเรื่องราวแล้ว ก็ดูที่หมายเลขป้ายทะเบียนรถ หลังจากนั้นก็กรอกลงไปในเครื่องมือที่อยู่ในมือ พบว่าภายในสามเดือนนี้ มีการถูกเฉียวชนนับครั้งไม่ถ้วน และมีคนแจ้งความไปตั้งนานแล้ว ดูเหมือนว่าจะเป็นนักโทษ จางเรยเองก็คิดไม่ถึง ว่าตัวเองบังเอิญทำผิดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต่อจากนั้นจางเรยและเสาปิงยู่ก็ถูกขอให้ไปที่สถานีตำรวจเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม ซึ่งจำเป็นต้องมีทั้งคู่ ในไม่ช้าพวกเขาทั้งสองก็ออกมาจากสถานีตำรวจหลังจากบันทึกข้อความเสร็จ เมื่อออกจากสถานีตำรวจ เสาปิงยู่ก็กล่าวขอบคุณจางเรยซ้ำแล้วซ้ำเล่า “จางเรย ขอบคุณ ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะคุณแจ้งตำรวจ วันนี้ฉันคงต้องชดใช้ให้เขาหนึ่งหมื่นหยวนแล้ว” “เหอะๆ ไม่ต้องขอบคุณหรอก เราเป็นเพื่อนกัน มันเป็นสิ่งที่ควรทำ” “ได้ยินมาว่า คุณเลิกกับซูชิงแล้วเหรอ?”เสาปิงยู่อดไม่ได้ที่จะถาม ทันใดนั้นเธอก็อายจนหน้าแดงตั้งแต่หน้าผากไปจนถึงลำคอ “เอ่อ ใช่” “ดีจังเลย” “อะไรนะ?”จางเรยไม่เข้าใจสิ่งที่เธอพูด เสาปิงยู่รู้สึกว่าตัวเองพูดอะไรผิดไป จนรู้สึกทำตัวไม่ถูก “ไม่ ไม่มีอะไร ฉันขอตัวก่อน วันหลังจะเลี้ยงอาหารคุณ” พูดจบ เสาปิงยู่ก็หันหลังเดินจากไป หลังจากจางเรยและเสาปิงยู่แยกทาง พวกเขายังคงสงสัยว่า ใครเป็นคนที่ช่วยฉันแจ้งตำรวจกันแน่? หรือว่าจะเป็นผู้ชมรอบ ๆ ? เขายังไม่รู้ เมื่อสักครู่หลังจากที่พวกเขาถูกตำรวจพาตัวไป ไม่ไกลจากสถานที่เกิดเหตุนัก มีรถโรลส์-รอยซ์สีดำคันหนึ่งลดหน้าต่างลง แสดงให้เห็นชายวัยห้าสิบกว่าคนหนึ่ง หลังจากเห็นว่าพวกเขาปลอดภัยแล้ว ก็ให้คนขับพาเขาไป! จางเรยไม่ได้คิดอะไรมากกับเรื่องนั้น ระหว่างทางกลับบ้าน ระบบบุญคุณก็เปิดเองอัตโนมัติขึ้นมาอย่างกระทัน เสียงยินกลดังออกมา “ค่าบุญคุณที่ฝากไว้เข้าบัญชีแล้ว ค่าบุญคุณ+100” “เฮ้ย” จางเรยได้ยินตัวเลข +100 ก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจ ครั้งนี้ไม่ได้ใช้จ่ายเงินแม้แต่นิด คาดไม่ถึงว่าจะให้ค่าบุญคุณมากขนาดนี้ แต่เขาเองก็รู้ ว่าค่าบุญคุณนี้ยังมีระยะที่ห่างกับการจับฉลากอยู่ เขาถือโอกาสในขณะที่ยังมีเวลาอยู่ เขาก็ไปทั้งบ้านพักคนชรา สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และที่อื่นๆ เพื่อทำเรื่องดีๆเท่าที่ความสามารถเขาจะทำได้ จนเห็นแต่ค่าบุญคุณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง “ค่าบุญคุณที่ฝากไว้เข้าบัญชีแล้ว บริจาคเงินบ้านพักคนชรา ค่าบุญคุณ +20” “ค่าบุญคุณที่ฝากไว้เข้าบัญชีแล้ว บริจาคเงินสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ค่าบุญคุณ +20” “ค่าบุญคุณที่ฝากไว้เข้าบัญชีแล้ว ช่วยเหลือคนพิการ ค่าบุญคุณ +10” “ขอแสดงความยินดีกับท่านด้วย ค่าบุญคุณของท่านสามารถเข้าร่วมการจับฉลากได้หนึ่งครั้ง จับฉลากหรือไม่?”เสียงหญิงกลพูด “ใช่” จางเรยตอบอย่างเด็ดขาด เขาเหน็ดเหนื่อย เพื่อที่จะได้รับโอกาสการจับฉลากสักครั้ง
已经是最新一章了
加载中